"ลิลลี่ เหงียน"แจงปมไลฟ์สดร่วม "แม่ตั๊ก" ยันไม่เกี่ยวข้องหลอกขายทอง เผยอยากไปเยี่ยมที่เรือนจำเพราะครั้งหนึ่งเคยมีบุญคุณจ้างงาน รับกังวลใช้เงินค่าจ้างหมดแล้ว หากตำรวจเรียกคืนต้องขอเวลาสักระยะ
วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม น.ส.ลิลลี่ เหงียน ดารานักแสดงชาวเวียดนาม เดินทางเข้ามาให้ปากคำกรณีที่เคยไปไลฟ์สดขายของให้น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก 2 ครั้ง รวมกว่า 4 ชั่วโมง
น.ส.ลิลลี่ กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกมาให้ปากคำในประเด็นการจ้างงานไลฟ์สด โดยตนอยากจะเดินทางมาก่อนหน้านี้ แต่มีผู้ใหญ่แนะนำว่าควรให้ตำรวจเรียกก่อนค่อยมา จึงต้องมาวันนี้ ทั้งนี้เคยไลฟ์สดกับแม่ตั๊ก 2 ครั้ง ในวันที่ 16 และ 18 ก.ค.67 ซึ่งรู้จักกันเพราะช่วงนั้นตนออกรายการโหนกระแส และได้รู้จักกันผ่านช่างแต่งหน้าคนหนึ่งในตอนนั้น และช่างแต่งหน้าคนนี้แนะนำงานของแม่ตั๊กมาให้ โดยตอนแรกที่มีการคุยกัน เข้าใจว่าเป็นการจ้างไลฟ์สดครั้งละ 150,000 บาท แต่พอมาถามช่างแต่งหน้า ปรากฏว่าเป็นการจ้างไลฟ์สด 2 ครั้ง รวมกันกว่า 4 ชั่วโมงในราคา 150,000 บาท แต่กลับได้ได้เงินจริงเพียงเเค่ 100,000 กว่าบาทเท่านั้น
น.ส.ลิลลี่ กล่าวต่อว่าการไลฟ์ขายสินค้า ทางแม่ตั๊กได้ให้ไลฟ์ขายสินค้า 3 อย่าง คือ ครีมกันแดด โกโก้ และสบู่ เท่าที่ตนทดลองสินค้าดูก็สรรพคุณตรงตามที่แม่ตั๊กบอก เลยตัดสินใจมาร่วมไลฟ์สด และในการไลฟ์สดมีสคริปต์ให้ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับสรรพคุณของสินค้า แต่ตลอดการไลฟ์สด ตนไม่ได้มีการพูดถึงทองคำ หรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ เกี่ยวข้องกับทองคำ ไม่มีการโปรโมท และไม่มีการหยิบจับสินค้าที่เกี่ยวกับทองคำ ในไลฟ์สดมีเพียงการพูดถึงประเด็นของตัวเองที่เคยออกรายการโหนกระเเสสลับกับการขายของ
ซึ่งไปออกไลฟ์สดนั้นไม่ได้มีการทำสัญญา ไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ และส่วนตัวไม่ได้สนิทสนมกับแม่ตั๊กและสามีของเขา ส่วนซองแดงที่อ้างว่าเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้า ยืนยันว่ามีการใส่เงินจริงแต่ไม่ทราบว่ามีการใส่กล่อง และจัดส่งให้ลูกค้าจริงหรือไม่
"หนูอยากไปเยี่ยมแม่ตักที่เรือนจำ อยากไปให้กำลังใจ เพราะครั้งหนึ่งก็เคยมีการจ้างงานกัน และมั่นใจว่า ถ้าเขาออกมาเขาจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว ทั้งนี้ส่วนตัวหนูไม่ได้กังวลอะไรเพราะบริสุทธิ์ แต่แอบกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเงินค่าจ้าง เพราะหนูใช้จนหมดแล้ว ถ้าจะเรียกคืนคงต้องขอเวลาอีกสักระยะ"น.ส.ลิลลี่ กล่าว