ตำรวจออกหมายจับชายชาวกัมพูชา คนชี้เป้าให้ “จ่าเอ็ม” ลงมือสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา
กรณีนายลิม กิมยา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม ยิงเสียชีวิต บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ ใกล้วงเวียนสิบสามห้าง ถนนบวรนิเวศน์ แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมจ่าเอ็ม โดยภายหลังก่อเหตุได้หลบหนีข้ามประเทศไปในพื้นที่ จ.พระตะบอง ตามที่เสนอข่าวนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (9 ม.ค) พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้นอกจากออกหมายจับจ่าเอ็มมือปืนแล้ว ต่อมาวันเดียวกัน พ.ต.ท.ภัชชภณ สุประดิษฐ์ สว. (สอบสวน) สน.ชนะสงคราม นำพยานหลักฐานเสนอศาลอาญารัชดา ศาลอนุมัติออกหมายจับนายคิมริน พิช ชาวกัมพูชา ที่ 104/2568 ลงวันที่ 8 ม.ค. 68 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นายคิมริน พิช เป็นคนชี้เป้าให้จ่าเอ็มยิงนายลิม กิมยาเสียชีวิต
ต่อมาเวลา 11.20 น. ภรรยานายลิม กิมยา พร้อมลุงชาวกัมพูชา และผู้ติดตามอีก 2 คน รวม 4 คน เดินทางมาที่ สน.ชนะสงคราม โดยรถยนต์โตโยต้า รุ่นเซียนต้า สีส้ม ทะเบียน 6 กค 9328 กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.สนอง และพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ภรรยาผู้เสียชีวิตเมื่อเห็นนักข่าวมารอทำข่าวอยู่เต็มหน้าบริเวณโรงพัก ได้ใช้ผ้าคลุมหัวปิดหน้า มีผู้ติดตามพาเดินเข้าภายในสถานีเพื่อสอบปากคำต่อไป
มีรายงานว่าภายหลังเกิดเหตุยิงนายลิม กิมยา เจ้าหน้าที่ได้นำภรรยานายลิม กิมยา ไปเก็บไว้ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งเพื่อความปลอดภัย รอให้เหตุการณ์คลี่คลายสักระยะหนึ่งถึงจะนำภรรยาผู้ตายมาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพ ประกอบเอกสารรับรองจากสถานทูตราชอาณาจักรกัมพูชา หรือสถานทูตฝรั่งเศสด้วย ต้องขึ้นอยู่กับว่า ภรรยาผู้ตายจะนำศพสามีไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่ประเทศอะไร ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวไปสอบถามเจ้าหน้าที่ รพ.วชิระ ที่ผ่าชันสูตรศพเมื่อช่วงสายวันเดียวกันนี้ แจ้งว่ายังไม่มีญาติผู้ตายหรือตัวแทนมาติดต่อรับศพแต่อย่างใด