เชียงราย – ผู้ช่วย รมต.ความมั่นคงฯ สป.จีน ตระเวนดูชายแดนไทย-เมียนมา-สปป.ลาว แหล่งทุนจีนทุกจุด หารือแนวทางปราบแก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์ พร้อมลงพื้นที่ริมฝั่งโขงส่องเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ
วันนี้ (1 ก.พ.) นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะ ได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยที่ห้องประชุมด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์โดยเฉพาะที่ส่งผลกระทบต่อชาวจีน
จากนั้นได้เดินทางไปที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว และไทย-เมียนมา ด้าน จ.เชียงราย เพื่อดูพื้นที่ชายแดนระหว่างประเทศไทยกับทั้ง 2 ประเทศดังกล่าว หลังจากเดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เชื่อมกับ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายหลิว จงอี และคณะ ได้ยืนอยู่ริมน้ำโขงฝั่งไทย มองดูเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่ดำเนินการโดยกลุ่มทุนจีนคือ "ดอกงิ้วคำ" มีนายจ้าวเหว่ยเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว โดยมีนายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า นายอำเภอเชียงแสน พ.ต.อ.ทักษิณ จันทะวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมะโน ผกก.สภ.เชียงแสน และหน่วยงานความมั่นคงชายแดนของไทยให้การต้อนรับ
นอกจากนี้นายหลิว จงอี ยังเดินทางไปยัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อดูจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ซึ่งชาวไทยและเมียนมาสามารถทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาสข้ามผ่านไปมาได้ แต่กรณีเป็นชาวต่างชาติต้องใช้หนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ต
ซึ่งจากจุดนี้สามารถเชื่อมไปยังเขตปกครองพิเศษต่างๆ ในประเทศเมียนมาหลายจุด เช่น เขตปกครองพิเศษที่ 1 (โกกั้ง),เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า),เขตปกครองพิเศษที่ 4 (เมืองลา) ฯลฯ ซึ่งล้วนเคยมีประวัติการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยและคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ใช้ปฏิบัติการระเบิดสะพานโจรในการตัดการส่งสัญญานอินเตอร์เน็ตที่คาดว่าจะส่งไปให้กับขบวนการผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้านแล้วหลายครั้ง และให้การช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกได้เป็นจำนวนมาก