“พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ” พร้อมคณะ ชงญัตติเปิดเวที “วุฒิสภา” ถล่มการทำหน้าที่ “ดีเอสไอ-ยธ.” ปมปล่อยทุนเทา-ให้สิทธิพิเศษ “นักโทษบางราย” รักษาตัว หวังส่งข้อเสนอให้ “รัฐบาล” ปรับปรุง
วันนี้ (2 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา วันที่ 4 มี.ค. นี้ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้นัดประชุมวุฒิสภา โดยมีวาระพิจารณาที่น่าสนใจ คือ การเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย เสนอโดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.กลุ่มกฎหมาย และคณะ
ทั้งนี้ สาระของญัตติที่เสนอดังกล่าว ได้ระบุโดยอ้างถึงรัฐธรรมนูญ 2560 ที่กำหนดให้รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้รัฐมีมาตรฐานคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรม ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยเคร่งครัด ปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงำ แต่ที่ผ่านมา พบว่ากระบวนการยุติธรรมไทยขาดประสิทธิภาพ และมีการแทรกแซง ครอบงำจากฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะการดำเนินคดีพิเศษ ของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่พบว่า ที่ผ่านมา กระบวนการยุติธรรมขาดประสิทธิภาพ ทำคดีล่าช้า ไม่สามารถทำให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษอย่างแท้จริง รวมถึงไม่สามารถป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดและปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ
ญัตติระบุด้วยว่า เช่น การดำเนินคดีกับนายทุนชาวจีนสีเทาในข้อหายาเสพติดฟอกเงิน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ การดำเนินคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่เป็นปัญหายาวนาและทวีความรุนแรง กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
“นอกจากนี้ ในการดำเนินการกระบวนการยุติธรรมยังเป็นปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น กรณีการให้สิทธิแก่ผู้ต้องขังที่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม ที่ผ่านมา มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส และไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยผู้ต้องขังบางคนได้รับสิทธิในการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่พิเศษกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ จึงสมควรที่วุฒิสภาจะได้อภิปรายระดมความคิดเห็นเพื่อพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย และเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อพิจารณาดำเนินการตามข้อบังคับวุฒิสภา ข้อ 35” ญัตติระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญัตติดังกล่าว พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ และคณะ รวม 11 คน ได้ยื่นเสนอ ต่อกลุ่มงานญัตติ เมื่อ 26 ก.พ. และได้รับการบรรจุในวาระประชุมทันที สำหรับ สว.ที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนญัตติดังกล่าวได้แก่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ น.ส.อมร ศรีบุญนาค น.ส.อัจฉรพรรณ หอมรส นายเอนก วีระพจนานันท์ นายอภิชา เศรษฐวราธร นายชวภณ วัธนเวคิน นายชีวะภาพ ชีวะธรรม นายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา นายอภิชาติ งามกมล และ นายพรเพิ่ม ทองศรี