ทอท.เตรียมลงทุน 1.42 แสนล้าน พัฒนา”สุวรรณภูมิ”รับ 150 ล้านคนในปี 76 ดันขึ้นติด Top10 สนามบินใหญ่สุดของโลก รื้อแผนแม่บท ตัด SAT-2 และส่วนต่อขยายตะวันตก พ.ค.นี้ จ่อประมูลสร้างอาคารตะวันออก1.2 หมื่นล. รับเพิ่ม 15 ล้านคน/ ปี
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทยจํากัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท.มีเป้าหมายที่จะพัฒนาขยายขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้สามารถรองรับผู้โดยสาร 150 ล้านคน/ปี เพื่อจะยกระดับขึ้นเป็นสนามบิน Top 10 ของโลก จากปัจจุบันที่อยู่ใน Top 30 ของโลก โดยสามารถรองรับได้ 65 ล้านคน/ปี โดยจะมีการพัฒนาโครงการส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ซึ่งจะเพิ่มการรองรับได้อีก 15 ล้านคน/ปี ทำให้ศักยภาพรวมเพิ่มเป็น 80 ล้านคน/ปี
โดยตามแผนในเดือน พ.ค. 2568 จะเปิดประมูลโครงการพัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท คาดได้ผู้รับเหมา ในเดือน ก.ค.2568 และ เริ่มงานก่อสร้างในเดือน พ.ย.2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี หรือแล้วเสร็จในปี 2571
และจะมีโครงการพัฒนาอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) ที่จะรองรับผู้โดยสาร 70 ล้านคน/ปี ซึ่งแผนงานจะประมูลและเริ่มก่อสร้างปี 2570 แล้วเสร็จปี 2576 ซึ่งจะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร รันเวย์ที่ 4 และระบบรถไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือ APM (เชื่อมจากอาคาร SAT-1 ไป South Terminal) วงเงินลงทุนรวม 1.3 แสนล้านบาท
นายกีรติกล่าวว่า ที่ผ่านมา ทอท.ได้มีการทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งล่าสุด มีการตัดอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 2 (SAT-2) เนื่องจากมีการพัฒนาอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ ที่จะรองรับผู้โดยสาร 70 ล้านคน/ปี และการมี SAT-2 จะมีผลต่อการบริหารจัดการทั้งระบบสายพานกระเป๋า และTranfer ที่ยุ่งยากมากขึ้น เพราะการเชื่อมต่อระหว่าง อาคารหลัก ไปยัง SAT-1 ไปยัง SAT-2 และอาคารทิศใต้ จะต้องไม่มีปัญหาสะดุด
รวมถึงจะไม่มีส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันตก (West Expansion) ด้วย ซึ่งเบื้องต้นการศึกษาพบว่า อาคารหลัก มีความสามาถรองรับได้ ขณะที่เมื่อก่อสร้างอาคารด้านทิศใต้เสร็จ ทอท.จะมีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลักให้มีความทันสมัยและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกกับผู้โดยสารอีกด้วย
ขณะที่ส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) จะไม่จำเป็นเช่นกัน โดยพื้นที่ดังกล่าว จะนำไปใช้รองรับศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) และ คาร์โก้ ซึ่งจะเป็นส่วนที่เพิ่มรายได้ให้ทอท.อีกทาง อย่างไรก็ดี ทอท.เตรียมเซ็นสัญญาว่าจ้างที่ปรึกษาทบทวนแผนแม่บทในรายละเอียดอีกครั้ง