xs
xsm
sm
md
lg

"เท้ง" สวน "วันนอร์" ลุอำนาจ ยันญัตติซักฟอกถูกตามรธน.ไม่ห้ามเอ่ยชื่อคนนอก แถมแจ้งข้อบกพร่องเกินเวลา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



”ณัฐพงษ์“ ร่อนด่วนสุดโต้ “วันนอร์” ญัตติซักฟอกถูกต้องตามรธน.-ข้อบังคับ อัดลุอำนาจแก้เนื้อหาญัตติ ทั้งที่รธน.ไม่อนุญาต ทำได้แค่ตรวจสอบข้อบกพร่องเชิงรูปแบบ-ข้อเท็จจริง ชี้ ข้อบังคับไม่ได้ห้ามเอ่ย “บุคคลภายนอก” แถมออกหนังสือแจ้งข้อบกพร่องเกิน 7 วัน ตามเวลากำหนด จี้ เร่งบรรจุวาระด่วน

เมื่อเวลา 15.08 น. วันที่ 10 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อโต้แย้ง หนังสือให้แก้ไขข้อบกพร่องญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล และขอให้บรรจุญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเข้า การประชุมสภาผู้แทนเร็วที่สุด

โดยให้เหตุผล 3 ข้อดังนี้ 1.ประธานสภาฯจะวินิจฉัยว่าเนื้อหาของญัตติดังกล่าวสมควรมีเนื้อหาอย่างไรมิได้ เนื่องจาก บทบัญญัติดังกล่าว ไม่ได้ ให้อำนาจประธานสภาฯใช้ดุลยพินิจวินิจฉัย ว่าเนื้อหาสมควรเป็นประการใด สมควรจะได้รับการบรรจุในระเบียบวาระการประชุมเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือคณะหรือไม่ หากแต่บทบัญญัติดังกล่าวกำหนดอำนาจผูกพันการใช้อำนาจของประธานสภาฯ เปิดให้อภิปรายทั่วไปเพื่อลงญัตติไม่ไว้วางใจเท่านั้น

โดยประสงค์ให้มีอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัยถึงเนื้อหา หรือมีอำนาจวินิจฉัยว่าจะบรรจุวาระ รัฐธรรมนูญต้องบัญญัติถ้อยคำ ที่แสดงถึงอำนาจที่ใช้ดุลยพินิจดังกล่าวอย่างชัดเจน ดังนั้นประธานสภาฯใช้อำนาจโดยอ้างข้อบังคับการประชุมตีความในทางที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ ย่อมเป็นการใช้และตีความกฎหมายที่ลุแก่อำนาจ ที่รัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมกำหนดไว้ ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงและทำลายอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติในการควบคุมตรวจสอบการบริหารแผ่นดินของฝ่ายบริหาร

2.ข้อบังคับการประชุมสภาไม่ได้ห้ามให้ระบุชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาญัตติ ดังนั้นการระบุชื่อบุคคลภายนอกในญัตติของฝ่ายค้านที่ผ่านมา จึงไม่เป็นการกระทำผิดหรือฝ่าฝืนข้อบังคับการประชุมสภาแต่อย่างใด ซึ่งในอดีตญัตติที่เสนอต่อประธานสภาหลายเรื่องก็มีการระบุชื่อของบุคคลภายนอก ซึ่งหากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีหรือสส. ได้รับความเสียหายจากการอภิปราย หรือการกล่าวถ้อยคำในที่ประชุมสภา บุคคลนั้นมีสิทธิ์ร้องขอต่อประธานสภาภายในเวลาสามเดือน นับแต่วันที่มีการประชุมเพื่อให้มีการโฆษณาคำชี้แจงได้ ตามข้อ 39 ของข้อบังคับการประชุม และรัฐธรรมนูญมาตรา 124 วรรค 3

ดังนั้นหากวิเคราะห์ตามเจตนารมณ์ของข้อบังคับการประชุม และรัฐธรรมนูญแล้ว เห็นว่าไม่ได้ห้ามการอภิปรายพาดพิงถึงบุคคลอื่น หรือบุคคลภายนอก ตรงกันข้ามยังตีความเจตนาได้ว่าการอภิปรายถึงบุคคลอื่นสามารถกระทำได้เพียงแต่ เพียงแต่สอสอผู้อภิปรายนั้นจะต้องรับผิดชอบผลแห่งการกระทำเอง และประธานสภาจัดให้มีการโฆษณาชี้แจงตามที่บุคคลนั้นร้องขอ ตามวิธีการและระยะเวลาภายในกำหนด

และ 3. ข้อบังคับการประชุมฯ ข้อที่ 136 กำหนด ให้ประธานสภา เมื่อได้รับญัตติดังกล่าวแล้วให้ทำการตรวจสอบหากมีข้อบกพร่อง ให้แจ้งผู้เสนอทราบภายในเจ็ดวันนับตั้งแต่วันที่ได้รับญัตติซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 7 มี.ค. 2568 แจ้งถึงผลการพิจารณาญัตติของประธานสภา เห็นได้ว่า การแจ้งข้อบกพร่องดังกล่าวไม่เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด จึงเป็นการแจ้งข้อบกพร่องที่ไม่ชอบด้วยข้อบังคับการประชุมสภาฯ เพราะประธานสภาได้รับญัตติของฝ่ายค้านเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2568 แต่กลับมีหนังสือแจ้งข้อบกพร่องเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2568 ซึ่งพ้นระยะเวลา 7 วัน ตามที่ข้อบังคับการประชุมสภาฯกำหนด

ฝ่ายค้านจึงยืนยันว่าการขอเปิดอภิปรายไว้วางใจครั้งนี้ ชอบด้วยข้อบังคับการประชุมสภาการฯ และรัฐธรรมนูญทุกประการ จึงขอให้ประธานสภาฯได้พิจารณาบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ฝ่ายค้านยังได้ส่งสำเนาญัตติตัวอย่างญัตติในอดีต เพื่อเป็นการยืนยันว่าสภาเคยมีการพิจารณาและอภิปรายเกี่ยวข้องถึงบุคคลภายนอกได้ ประกอบหนังสือโต้แย้งดังกล่าวด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น