“ภูมิธรรม” บอกอย่าดูถูกสื่อที่ร่วมคณะบินไปจีนเยี่ยมชาวอุยกูร์ ชี้ ไม่แฟร์กล่าวหาเป็นสื่อของรัฐ ลั่นตรวจสอบได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือไม่ แจงเลือกจากหลายสาย ทั้งทำเนียบ-กลาโหม มีครบทั้งทีวี นสพ.-ออนไลน์ แนะอย่าสนใจคำถาม “โรม” เพราะถามตลอด
วันนี้ (13 มี.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงกรณี นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ตั้งคำถามถึงความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่ทางรัฐบาลจะพาไปติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ 40 คน ที่รัฐบาลไทยส่งกลับจีน ว่า การเดินทางครั้งนี้ใช้เครื่องบินของกองทัพ มี 20 กว่าที่นั่ง สาเหตุที่ใช้เครื่องของกองทัพ เนื่องจากต้องการเซฟเวลา ซึ่งการใช้เครื่องนี้เซฟเวลาไป 8 ชั่วโมง เพราะไม่ต้องต่อเครื่อง ซึ่งความเป็นจริงสามารถใช้สื่อของรัฐเป็นพูล ทั้ง NBT และช่อง 5 ได้ แต่เราต้องการให้มีลักษณะพิเศษ มีทั้งตัวแทนสื่อจากทีวี หนังสือพิมพ์ และออนไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าตนเป็นคนตัดสินใจ ทำให้มีคนมาขอที่ตน แต่ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวเลย เพราะตนได้มอบนโยบายว่าต้องงานร่วมกัน โดยมอบหมายให้สำนักโฆษกประจำทำเนียบรัฐบาล เป็นผู้ประสานคัดเลือกมา ส่วนที่กระทรวงกลาโหมก็ให้กองโฆษกดำเนินการคัดเลือกมา ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีหลักเกณฑ์การคัดเลือกอย่างไร ขณะที่การคัดเลือกสำนักข่าวร่วมเดินทางไปต่างจังหวัด ก็ได้ยินมาว่าสื่อมวลชนมีการตกลงกัน เป็นการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปซึ่งตอนที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำในลักษณะนี้
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ได้ยินว่ามีการพาดพิงถึงตน ว่า รัฐบาลเลือกสื่อที่จะเดินทางไป ตนมองว่า เป็นการดูถูกสื่อที่ถูกเลือกไป ตนไม่คิดว่าใครจะเป็นสื่อของรัฐบาล ยกเว้น NBT ที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งสื่อที่เลือกไปก็เลือกสื่อที่แมส สามารถเช็กจากเรตติ้งได้ ซึ่งตนได้กระจายให้ครอบคลุมทุกสื่อ ดังนั้น การที่จะมาบอกว่าจะให้สมาคมสื่อไปขออนุญาตเดินทางไปทำข่าว ทุกคนมีสิทธิไปประสานงานขอทางการจีน เป็นเรื่องของท่าน แต่ไม่ใช่จะมาบอกว่าสื่อที่เรานำไปเป็นสื่อของรัฐบาลทั้งนั้น เพราะฉะนั้นก็รอดูว่ามีสื่อไหนไปบ้าง และหาคำตอบเองว่าเป็นการดูถูกเขาหรือไม่ แต่ตนมองว่ารายชื่อสื่อมวลชนที่ออกมา มีทุกสายทั้งจากทำเนียบรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม ดังนั้น อย่ามาพูดว่าเราเลือกแต่สื่อที่เป็นของรัฐบาล พวกคุณรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว สำหรับสื่อที่ไปก็ให้ทำข่าวเผยแพร่ให้สำนักข่าวอื่นๆ ด้วย มีอยู่ประมาณ7-8 ที่ แต่ยังมีสื่อมวลชนที่สนิทกับตนมาขอเพิ่ม ซึ่งตนยืนยันไปว่าไม่สามารถเพิ่มได้แล้ว
นายภูมิธรรม ย้ำว่า ไม่แฟร์ถ้าจะมาบอกว่าเราทำแบบนี้ ขอให้รอผลที่ออกมาก่อน และสามารถตรวจสอบสื่อที่ไปได้ว่าฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือไม่
ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่า สื่อที่ไปยังมีเสรีภาพในการเขียนข่าวหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้อนกลับว่า มาถามตนได้อย่างไร ต้องถามสื่อด้วยกันเอง
ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่า เป็นการตั้งคำถามของ นายรังสิมันต์ โรม นายภูมิธรรม จึงบอกว่าคุณโรมถามก็เรื่องของคุณโรม อย่าให้ความสนใจ คุณโรมตั้งคำถามตลอด ซึ่งเรารับฟังได้แต่อย่าเป็นคำถามที่ไม่มีรากฐาน