สถานะความเป็นผู้นำของโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส ในวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.) อ้างอิงเจ้าหน้าที่ระดับสูงเคียฟ รายงานข่าวนี้มีขึ้นท่ามกลางความกังวลที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในวอชิงตัน เกี่ยวกับความชอบธรรมของเซเลนสกี ในการที่ยังคงนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดียูเครน
วาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเซเลนสกี หมดลงไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธจัดเลือกตั้งใหม่ อ้างถึงกฎอัยการศึกที่เขาประกาศบังคับใช้ระหว่างทำศึกความขัดแย้งกับรัสเซีย
เร็วๆ นี้รัฐบาลปัจจุบันของสหรัฐฯ กำลังเจรจาเส้นทางหนึ่งในการมุ่งหน้าสู่การยุติความขัดแย้ง ในนั้นรวมถึงกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของอเมริกา ระงับความช่วยเหลือด้านการทหารและข้อมูลข่าวกรองที่ป้อนแก่เคียฟช่วงสั้นๆ ก่อนกลับสู่สถานะตามเดิม ตามหลังการประชุมหารือแบบทวิภาคีในซาอุดีอาระเบียเมื่อช่วงต้นสัปดาห์
"เราอยู่ในการทำหน้าที่ท้ายๆ (ของประธานาธิบดีเซเลนสกี)" เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนบอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส ยืนยันข่าวลือที่หนาหูมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่แวดวงการเมืองของประเทศ ในกรณีที่ว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งอีกนานแค่ไหน
ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวทหารยูเครน พวกนักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ยูคเรน บอกว่าเคียฟคงสามารถเดินหน้าสู้รบต่อไปได้ "อย่างน้อยๆ 6 เดือน" ในกรณีที่สหรัฐฯ ระงับความช่วยเหลือทางทหารโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม มันอาจยาวนานกว่านั้น ถ้าอียูเข้ามาเติมเต็มช่องว่างและสามารถยกระดับกำลังผลิตอาวุธในประเทศเข้มข้นขึ้น
เจ้าหน้าที่ตะวันตกซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามบอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส ว่านอกเหนือจากการขาดแคลนอาวุธและกระสุนแล้ว ความเป็นผู้นำของเซเลนสกีอาจถูกท้าทายจากภาวะขาดแคลนกำลังพล ซึ่งยังคงเป็นปัญหาที่กดดันยูเครนมากที่สุด
ในเดือนพฤศจิกายน 2024 รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ณ ขณะนั้น เรียกร้องให้ เคียฟ เกรฑ์ทหารเพิ่มขึ้นและปรับลดอายุขั้นต่ำสำหรับเกณฑ์ทหาร จาก 25 ปี เหลือ 18 ปี เพื่อรับมือกับปัญหาขาดแคลนกำลังพล อย่างไรก็ตามในตอนนั้น เจ้าหน้าที่ยูเครนปฏิเสธข้อเสนอนี้ อ้างว่าปัญหาใหญ่ที่แท้จริงของกองทัพของประเทศ คือขาดแคลนอาวุธ
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม รายงานข่าวของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวการเมืองสัญชาติอเมริกา อ้างว่าสมาชิกระดับอาวุโสในรัฐบาลของทรัมป์ กำลังพูดคุยเจรจาในการติดต่ออย่างลับๆ กับบรรดาคู่ปรับทางการเมืองของเซเลนสกี ท่ามกลางข่าวคำกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ในวอชิงตันบางส่วน ว่า เซเลนสกี ทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
ล่าสุด ไฟแนนเชียลไทม์ส ระบุว่าฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของเซเลนสกี เวลานี้ "กำลังเตรียมการสำหรับการเลือกตั้ง ก่อตั้งพันธมิตรและทดสอบสุ้มเสียงของประชาชน" นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่านักการเมืองหลายคนได้เริ่มติดต่อเลียบเคียงไปยังพวกเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์แล้วด้วย
เซเลนสกี ปฏิเสธจัดเลือกตั้งใหม่ ทั้งศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีและศึกเลือกตั้งรัฐสภา อ้างอิงกฎอัยการศึก กระตุ้นให้ประธานธิบดีทรัมป์ ออกมาตั้งคำถามเมื่อเดือนที่แล้ว เกี่ยวกับความชอบธรรมของเซเลนสกี โดยตราหน้าว่าเขาเป็น "เผด็จการที่ปราศจากการเลือกตั้ง"
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความเคลือบแคลงต่อสถานะของเซเลนสกี เช่นกัน โดยไม่นานหลังจากวาระการดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในฐานะผู้นำยูเครนหมดลงไปเมื่อเกือบ 1 ปีก่อน ผู้นำมอสโกระบุว่ามีเพียงรัฐสภายูเครนเท่านั้นที่มีอำนาจโดยชอบธรรม และเมื่อเร็วๆ นี้ ปูติน เน้นย้ำว่า เซเลนสกี ไม่เหลือสิทธิใดๆ ในการลงนามข้อตกลงต่างๆ อย่างเป็นทางการอีกต่อไปแล้ว
(ที่มา : ไฟแนนเชียลไทม์ส/อาร์ทีนิวส์)