ปมร้อนข่าวลึก : สไนเปอร์ BRN มีจริง ล่าสังหารเก็บแต้มเพิ่ม สอย ตชด. ดับคาฐาน
เป็นไปตามที่นักยุทธศาสตร์ทางทหารคาดการณ์ไว้ทุกประการว่า เจ้าหน้าที่รัฐไทยไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจะต้องตกเป็นเหยื่อล่าสังหารของสไนเปอร์ BRN ชนิดที่เรียกว่า โดนสอยร่วงรายวัน ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้นทุกประการ
เพราะหลังจากร้อยโทภูวิวัฒน์ คำสงค์ เหยื่อรายที่สามของพลซุ่มยิงหรือสไนเปอร์ถูกยิงเสียชีวิตหน้าฐานปฏิบัติการบ้านสนามบิน จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นเพียง 5 วัน ฝ่ายตรงข้ามก็สามารถดักยิงเป้าหมายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐไทยได้สำเร็จเป็นรายที่ 4
โดยคราวนี้เหยื่อเป็นเจ้าหน้าที่ ตชด. สตท.ก่อภา บุญอ่อน ผบ.หมู่กองกำกับการตำรวจชายแดน 42 ประจำอยู่ที่ฐานปฏิบัติการ 9333 ตำบลกะลุวอ จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณสองทุ่มของวันที่ 16 มีนาคม
แม้ฐานดังกล่าวจะมีการวางบังเกอร์กระสอบทรายกันกระสุนตามยุทธวิธีป้องกันฐานจากการโจมตีด้วยอาวุธสงครามของฝ่ายตรงข้าม
แต่บังเกอร์ก็ไม่อาจรับมือกับยุทธวิธีสไนเปอร์ที่ยึดถือตามมาตรฐานนักล่า
นั่นคือ การเกาะติดซ่อนตัวในระยะหวังผลรอเวลาอย่างอดทนเงียบเชียบจนกว่าเป้าหมายจะปรากฏตัว
จากนั้นเมื่อกากบาทในกล้องเล็งทาบเป้าในตำแหน่งจุดตาย มือสังหารก็จะลั่นไกปล่อยกระสุนพิฆาตออกไปเพียงนัดเดียวแล้วสงบนิ่งเฝ้าดูผลงานเพื่อความแน่ใจก่อนจะถอนตัวออกไปพร้อมกับความสำเร็จที่เกิดขึ้น
สตท.ก่อภา บุญอ่อน อายุเพียง 27 ปี จึงถูกยิงเข้าที่หน้าอกอย่างแม่นยำได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการเป็นตายเท่ากัน และเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ยืนยันว่าสไนเปอร์ BRN มีอยู่จริงและขยายพื้นที่ปฏิบัติการได้เพิ่มขึ้นทั้งในจังหวัดยะลาและนราธิวาส ซึ่งแน่นอนว่าอีกไม่กี่วันจะต้องมีเหยื่อรายใหม่ในพื้นที่ใหม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
คำถามซ้ำซากที่เกิดขึ้นจากครอบครัวของเหยื่อผู้สูญเสียจากการซุ่มยิงของสไนเปอร์ BRN ก็คือ เมื่อไหร่ฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า จะปรับยุทธวิธีในการ รับมือและตอบโต้สไนเปอร์ข้าศึก แทนที่จะคาดหวังว่า จะใช้การเจรจาสันติภาพเป็นแนวทางแก้ไข
เพราะในความเป็นจริง สิ่งที่รัฐไทยจะต้องยอมรับก็คือ ในทุกการเจรจาบนความขัดแย้งทั่วทุกมุมโลก ฝ่ายใดที่ได้เปรียบในสมรภูมิ ย่อมไม่ประสงค์ที่จะเจรจายุติความขัดแย้ง เพราะมองเห็นชัยชนะอยู่แค่เอื้อม หรือหากต้องการเจรจาฝ่ายที่ได้เปรียบก็จะเป็นผู้กำหนดเกม หรือตั้งเงื่อนไข ที่ฝ่ายตนเองได้ประโยชน์มากที่สุด
ดังนั้นชัยชนะของสไนเปอร์ที่สามารถเก็บแต้มล่าเหยื่อได้ทุกสัปดาห์ ย่อมทำให้ฝ่ายBRN เหนือกว่ารัฐไทยบนโต้ะเจรจา
และตราบใดที่รัฐไทยไม่สามารถสกัดกั้นปฏิบัติการของสไนเปอร์ได้สำเร็จ ก็อย่าหวังเลยว่า การเจรจาจะบรรลุผลและความสงบสุขจะกลับคืนมาสู่แผ่นดินด้ามขวาน
ปัญหาสำคัญของฝ่ายรัฐไทยก็คือ ผู้มีอำนาจตัดสินใจในการกำหนดยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีให้ความสำคัญกับอันตราย และภัยคุกคามจากสไนเปอร์มากน้อยเพียงใด หรือจะต้องรอจนกว่าระดับผู้ว่าราชการจังหวัด หรือแม่ทัพโดนสไนเปอร์สอยร่วง ขณะปรากฏตัวในงานพิธีเสียก่อน จึงจะเอาจริงเอาจังกับภัยคุกคามนี้
มีตัวอย่างจากเหตุการณ์จริงในสมรภูมิอิรักเกี่ยวกับการเด็ดหัวสไนเปอร์ที่ชื่อจูบา ของฝ่ายต่อต้านสหรัฐ หลังจากที่ทหารช่างและวิศวกรของอเมริกาถูกสไนเปอร์ ซึ่งข่าวกรองระบุว่า ชื่อจูบาเป็นชาวซีเรีย ซุ่มยิงรายแล้วรายเล่า ขณะปฏิบัติงานสร้างกำแพง ในพื้นที่กรีนโซน
กองทัพสหรัฐตระหนักในภัยคุกคามจากสไนเปอร์ขึ้นศึกจึงมอบหมายให้สไนเปอร์ของซีลทีมเข้าปฏิบัติการตอบโต้ไล่ล่าด้วยการวางตัวในพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่จะถูกสไนเปอร์ซุ่มยิงแล้วตรวจการหาตำแหน่งที่คาดว่าจะเป็นที่ซ่อนตัวของสไนเปอร์ โดยสังเกตุจากแสงสะท้อนที่ออกมาจากกล้องเล็ง
ด้วยความพยายามวันแล้ววันเล่าในที่สุด สไนเปอร์ของหน่วยซีลก็สามารถลั่นไกสังหารพลแม่นปืนฝ่ายตรงข้ามที่ชื่อจูบาได้สำเร็จ ปิดฉากนักล่าหัวที่เด็ดชีพฝ่ายอเมริกันไปหลายสิบรายได้สำเร็จ
สำหรับในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย พลแม่นปืนทั้งของศูนย์สงครามพิเศษกองทัพบกและของหน่วยซีลของกองทัพเรือ ต่างกระหายที่จะได้ลงพื้นที่เข้าประดาบเลือดเดือด กับสไนเปอร์ของ BRN ด้วยความมั่นใจในศักยภาพที่เหนือกว่า ทั้งการฝึกปรือ ยุทธวิธีและอาวุธที่ใช้
ขอเพียงผู้มีอำนาจตัวจริงสั่งการมาเมื่อไหร่ สไนเปอร์ BRN ก็จะได้ประจักษ์ว่า ผู้ล่า เหยื่อย่อมกลายเป็นผู้ถูกล่าได้เสมอ