เชียงใหม่ - “บิ๊กเต่า” นำทีมตำรวจสอบสวนกลางสนธิกำลัง ป.ป.ช.และ ป.ป.ท.บุกจับคาโต๊ะทำงาน 2 เจ้าหน้าที่สำนักงานทางหลวงเชียงใหม่รีดเงิน 2.5 แสนบาทจากชาวบ้านเจ้าของที่ดินแนวโครงการขยายถนนที่เชียงดาว อ้างช่วยวิ่งเต้นให้ได้รับเงินค่าเวนคืนที่ดินเพิ่มขึ้น แต่สุดท้ายพบเป็นเพียงกลลวง เบื้องต้นยังปากแข็งบอกว่าเป็นการให้โดยเสน่หา แต่ จนท.ไม่ปักใจเชื่อ และเตรียมสืบสวนขยายผลว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดอีกหรือไม่ รวมทั้งคาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายรายอื่นๆ อีก
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ช่วงสายวันนี้ (20 มี.ค. 68) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.นำกำลังเข้าจับกุม นายปารย์ แก้วมาลัย อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่นายช่างโยธา สังกัดสำนักงานทางหลวงที่ 1 และ นายชญานนท์ เป็งธรรม อายุ 24 ปี ลูกจ้างสังกัดสำนักงานทางหลวงที่ 1 ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์โดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” โดยจับกุมตัวทั้งสองได้ที่สำนักงานทางหลวงที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาได้มีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปปป.เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่นายช่างโยธา สังกัดสำนักงานทางหลวงที่ 1 เรียกเงินจำนวน 250,000 บาท เพื่อแลกกับการทำเรื่องเพิ่มราคาที่ดินของผู้เสียหายเพื่อก่อสร้างขยายถนนในพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่จะถูกเวนคืนจากเดิม 2,700,000 บาท เป็น 3,600,000 บาท กระทั่งเมื่อถึงวันที่ผู้เสียหายนำเช็คค่าเวนคืนที่ดินที่ได้รับจากแขวงการทางฯ ไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ก็ได้เดินทางมารอรับเงินค่าดำเนินการบริเวณด้านหน้าธนาคารในทันที
ต่อมาผู้เสียหายทราบข้อเท็จจริงในภายหลังว่าแท้จริงแล้วที่ดินของตนเองมีการประเมินค่าเวนคืนที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้างอยู่ที่ 3,600,000 บาทอยู่แล้ว ส่วนราคา 2,700,000 บาท ที่ทางแขวงการทางฯ แจ้งในตอนแรกเป็นเพียงราคาประเมินเฉพาะที่ดินยังไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง แต่ผู้ต้องหาทั้งสองกลับนำมาใช้เป็นกลอุบายให้เหยื่อเกิดความสับสนเข้าใจผิดเพื่อหลอกเอาเงินจากผู้เสียหาย โดยการอ้างว่าจะช่วยดำเนินการปรับเพิ่มมูลค่าเวนคืนที่ดินให้ ทั้งที่ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆตามที่กล่าวอ้าง ผู้เสียหายจึงมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
พนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย และทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยังคงให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปปป.เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งขยายผลว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วยอีกหรือไม่
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ (20 มี.ค. 68) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ พล ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และนายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และนายนิรันดร ศรีภักดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งผู้แทน ป.ป.ท.ร่วมกันแถลงข่าวการร่วมกันปฏิบัติการจับกุมในครั้งนี้ โดยระบุว่าโครงการขยายถนนหมายเลข 1359 ที่ อ.เชียงดาว นั้น ต้องมีการเวนคืนที่ดินบ้านเรือนประชาชนประมาณ 100 ราย ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้เป็นเพียงผู้เสียหายรายเดียวเท่านั้น จึงเชื่อว่าอาจจะมีผู้เสียหายรายอื่นๆ อีก และสามารถเข้าแจ้งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ได้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการจับกุมครั้งนี้นั้นถือว่าเป็นการตัดตอนไม่ให้ผู้ตกเป็นเหยื่อได้รับความเสียหายเพิ่มเติมมากไปกว่านี้ เพราะการเวนคืนในโครงการนี้เพิ่งมีการจ่ายเงินค่าเวนคืนไปประมาณร้อยละ 10 จากทั้งหมดประมาณ 100 ราย ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนั้น เบื้องต้นยอมรับว่าได้รับเงินจากทางผู้เสียหายจริง แต่อ้างว่าผู้เสียหายมอบให้โดยเสน่หา และให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ พร้อมส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไปว่ามีผู้เกี่ยวข้องร่วมกระทำผิดด้วยอีกหรือไม่