ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- วิกฤตหนัก! “เขื่อนลำตะคอง” สายเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงเมืองโคราช อยู่ในเกณฑ์“วิกฤตน้ำน้อย” เหลือน้ำส่งจ่ายให้ 5 อำเภอ ผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภค เพียง 12 %
วันนี้ (23 มี.ค.68) โครงการชลประทานนครราชสีมา รายงาน ว่า สภาพน้ำเก็บกักภาพรวมในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 แห่งและในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง รวม 27 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ล่าสุดวันนี้ มีปริมาตรน้ำกักเก็บ รวมเหลืออยู่ที่ 461.23 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 37.78 % ของความจุกักเก็บทั้งหมด 1,220.82 ล้านลูกบาศก์เมตร และเป็นน้ำใช้การได้ 398.42 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 34.41 %
ในจำนวนนี้ มีอ่างเก็บน้ำ 3 แห่งที่มีปริมาตรน้ำเก็บกักเหลือไม่ถึง 30 % ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว พบว่า มีปริมาตรน้ำคงเหลือน้อยมาก จนอยู่ในเกณฑ์ “วิกฤตน้ำน้อย” โดยมีน้ำเก็บกักเหลืออยู่ที่ 59.53 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 18.93 % เท่านั้น จากระดับความจุเก็บกักทั้งหมด 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร และเป็นน้ำใช้การได้เพียง 36.81 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 12.62 % จึงต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและบริหารจัดการการใช้น้ำอย่างรัดกุมที่สุด เพราะต้องส่งจ่ายน้ำดิบไปให้ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ใช้ผลิตประปาอุปโภค-บริโภค นอกจากนี้ ยังต้องส่งจ่ายไปรักษาระบบนิเวศลำน้ำ จ่ายให้ภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม ตามแผนบริหารจัดการน้ำด้วย
ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางอีก 2 แห่ง ที่มีปริมาตรน้ำเก็บกักคงเหลือไม่ถึง 30 % ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยซับประดู่ อ.สีคิ้ว ซึ่งเหลือน้ำใช้การได้แค่ 5.92 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 22.55 % และอ่างเก็บน้ำน้ำห้วยน้ำเค็ม อ.บัวใหญ่ ที่ไม่สามารถส่งจ่ายน้ำให้กิจกรรมการใช้น้ำต่างๆ ได้แล้ว เพราะเหลือน้ำเก็บกักในอ่างฯ อยู่แค่ประมาณ 1 แสนลูกบาศก์เมตร หรือ 15.65 % เท่านั้น ซึ่งเป็นน้ำก้นอ่างฯ ที่ต้องเก็บกักเอาไว้เพื่อรักษาความมั่นคงแข็งแรงและรักษาสภาพดินรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนไม่ให้ขาดน้ำจนอ่างฯ ทรุดพัง เป็นต้น
