xs
xsm
sm
md
lg

ศาล ปค.สูงสุดรับคำฟ้องขอยกเลิกประกาศคะแนนสอบ TCAS A-Level 67 วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้รับคำฟ้องไว้พิจารณา ในคดีฟ้องขอยกเลิกประกาศคะแนนสอบ TCAS A-Level 2567 คะแนนวิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 หลังที่ประชุม ทปอ.ประกาศแก้ไขคะแนนทำผู้ฟ้องคดีคะแนนลด พลาดโควตาสถาบัน

วันนี้ (24 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ศาลปกครองพิษณุโลก อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่มีคำสั่งให้รับคำฟ้องไว้พิจารณาในคดีฟ้องขอยกเลิกประกาศคะแนนสอบ TCAS A-Level 2567 คะแนนวิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1

คดีนี้ผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กับผู้จัดการระบบสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (TCAS67) และ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ว่า ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ดำเนินการจัดสอบ TCAS67 และประกาศผลสอบวิชา A-Level คะแนนวิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 ของผู้ฟ้องคดีผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่จะได้เข้าเรียนหรือได้รับโควตาสายสุขภาพของสถาบันที่ยื่นโควตาไว้แล้ว

แต่ต่อมา ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ประกาศแก้ไขคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 เป็นผลให้ผู้ฟ้องคดีถูกปรับลดคะแนนวิชาดังกล่าวลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่จะได้รับเข้าเรียนหรือได้รับโควตาสายสุขภาพของสถาบันที่ได้ยื่นโควตาไว้ ทำให้เสียสิทธิเข้าเรียนในสถาบันดังกล่าว จึงขอให้ศาลพิพากษายกเลิกประกาศที่แก้ไขปรับลดคะแนนสอบของผู้ฟ้องคดี และปรับคะแนนของผู้ฟ้องคดีให้เป็นไปตามเดิม พร้อมขอให้ยกเลิกการนำคะแนนสอบ A-Level วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 ไปใช้ในทุกสถาบัน และขอให้เปิดเผยข้อสอบและผลการตรวจข้อสอบทุกรายวิชาของผู้ฟ้องคดี ส่วนคดีที่ฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นั้น ฟ้องว่า รัฐมนตรีในฐานะเป็นผู้กำกับดูแลที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยละเลยไม่ควบคุมการดำเนินการระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาโดยปล่อยให้ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยออกกฎเกณฑ์จำกัดสิทธิและละเมิดสิทธิในการศึกษาของเด็ก รวมทั้งไม่ตรวจสอบปัญหาการแก้ไขคะแนน ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา

ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่า การคัดเลือกบุคคลเข้ารับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาเป็นอำนาจและหน้าที่ของสถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายของแต่ละสถาบัน โดยมีอธิการบดีของแต่ละสถาบันเป็นผู้รับผิดชอบ นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของสถาบันอุดมศึกษาในขณะนั้น ก็ได้มอบหมายให้ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยพิจารณาปรับรูปแบบการรับนักเรียนเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาด้วย ซึ่งต่อมา ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยก็ได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายนั้น โดยใช้ระบบคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (TCAS) เป็นระบบการคัดเลือก แสดงให้เห็นว่า อธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาที่ประกอบเป็นที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยได้ใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาของตนในการคัดเลือกบุคคลเข้ารับการศึกษาต่อ และมอบหมายให้ผู้จัดการระบบ TCAS67 ผู้ถูกฟ้องคดี เป็นผู้ดำเนินการจัดสอบวัดผลและคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาแทนตน โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญของบริการสาธารณะด้านการศึกษา ซึ่งเป็นการดำเนินกิจการทางปกครอง มิใช่เป็นเพียงความร่วมมือประสานงานหรือส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาตามวัตถุประสงค์เดิมของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ไม่มีกฎหมายก่อตั้งหรือให้อำนาจและไม่ได้สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ

ดังนั้น การที่สถาบันอุดมศึกษาดำเนินการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อโดยไม่ได้จัดการสอบเอง แต่ยอมรับใช้ระบบการคัดเลือกกลาง ถือได้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีในฐานะผู้จัดการระบบฯ มีบทบาทหน้าที่ในการบริหารจัดการระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2567 ตามภารกิจและวัตถุประสงค์ของระบบ TCAS67 ซึ่งเป็นกิจการทางปกครองและบริการสาธารณะด้านการศึกษา โดยได้รับมอบหมายหน้าที่จากทั้งรัฐมนตรีและจากอธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาที่เกี่ยวข้อง การกระทำของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และผู้จัดการระบบ TCAS จึงเป็นการกระทำทางปกครองและอยู่ในอำนาจของศาลปกครองที่จะตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายได้

ดังนั้น ศาลปกครองสูงสุดจึงไม่เห็นพ้องด้วยกับศาลปกครองชั้นต้นที่ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาโดยเห็นว่าเป็นกรณีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 จึงมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้รับคำฟ้องไว้พิจารณา

สำหรับคดีที่ฟ้องว่า รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัตินั้น ศาลปกครองสูงสุด เห็นว่า การศึกษาของชาติเป็นหน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญ และเป็นหน้าที่ของ รมว.การอุดมศึกษาฯ ตาม พ.ร.บ.การอุดมศึกษา 2562 รัฐมนตรีจึงมีหน้าที่กำหนดนโยบายและกำกับดูแลสถาบันอุดมศึกษาในการนำนโยบายไปปฏิบัติ ซึ่งรวมตลอดตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกบุคคลเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษาเป็นต้นไป รัฐมนตรีไม่อาจปล่อยให้ภารกิจดังกล่าวดำเนินไปโดยปราศจากการกำกับดูแลจากรัฐ เมื่อผู้ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับความเดือดร้อนเสียหายอันเนื่องจากการกระทำหรือการงดเว้นการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดี กรณีจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ผู้ฟ้องคดีจึงมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง

ดังนั้น ศาลปกครองสูงสุดจึงไม่เห็นพ้องกับศาลปกครองชั้นต้นที่มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา โดยเห็นว่า เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ปฏิบัติจึงมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้ดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาต่อไปตามรูปคดี
กำลังโหลดความคิดเห็น