ความช่วยเหลือจากต่างชาติเริ่มทยอยถึงพม่า ชาวมัณฑะเลย์ครวญขาดกำลังคน-อุปกรณ์ช่วยเหยื่อแผ่นดินไหว

รอยเตอร์ - รัฐบาลทหารพม่าอนุญาตให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างชาติหลายร้อยคนเข้าช่วยเหลือในวันเสาร์ (29) หลังจากแผ่นดินไหวคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 1,000 คน ที่นับเป็นภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในประเทศที่ยากจนและได้รับผลกระทบจากสงครามในรอบหลายปี

แผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดเมื่อวันศุกร์ (28) ที่เป็นหนึ่งในแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่สั่นสะเทือนประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ในรอบศตวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้สนามบิน สะพาน และทางหลวงได้รับความเสียหายท่ามกลางสงครามกลางเมืองที่ทำลายเศรษฐกิจและทำให้ผู้คนหลายล้านชีวิตต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น

รัฐบาลทหารระบุยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,0002 คนในวันเสาร์ (29) ขณะที่ในไทย แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้ตึกระฟ้าสั่นสะเทือน และตึกสูงที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในกรุงเทพฯ พังถล่มลงมา และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน

ผู้รอดชีวิตในเมืองมัณฑะเลย์ ที่เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ ต้องขุดดินด้วยมือเปล่าในความพยายามที่จะช่วยชีวิตผู้ที่ยังติดอยู่ภายในอาคาร ที่ขาดแคลนเครื่องจักรหนัก และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่

แบบจำลองเชิงทำนายของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ประเมินว่ายอดผู้เสียชีวิตในพม่าอาจพุ่งเกิน 10,000 คน และมูลค่าความเสียหายอาจสูงเกินตัวเลขจีดีพีของประเทศ

หนึ่งวันหลังจากขอความช่วยเหลือจากนานาชาติที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารพม่าได้เดินทางต่อไปยังเมืองมัณฑะเลย์ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ใกล้กับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ที่ทำให้อาคารพังทลายและเกิดไฟไหม้ในบางพื้นที่

“ประธานสภาบริหารแห่งรัฐได้สั่งการให้ทางการเร่งค้นหาและกู้ภัย และจัดการกับความต้องการอย่างเร่งด่วน” รัฐบาลทหารระบุในคำแถลงบนสื่อของทางการ โดยอ้างคำกล่าวของพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย

การประเมินเบื้องต้นของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ที่เป็นรัฐบาลคู่ขนาน ระบุว่ามีอาคารอย่างน้อย 2,900 หลัง ถนน 30 สาย และสะพาน 7 แห่ง ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว

“สนามบินนานาชาติเนปีดอและมัณฑะเลย์ ได้รับความเสียหายอย่างมากจึงปิดให้บริการชั่วคราว” รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติระบุ

หอควบคุมที่สนามบินในเนปีดอพังถล่มลงมาจนไม่สามารถใช้งานได้ บุคคลที่ทราบสถานการณ์ดังกล่าว กล่าวกับรอยเตอร์

ทีมกู้ภัยชาวจีนเดินทางถึงสนามบินในนครย่างกุ้ง ที่อยู่ห่างจากมัณฑะเลย์และเนปีดอหลายร้อยกิโลเมตร และจะเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยด้วยรถบัส สื่อของรัฐระบุ ส่วนสิ่งของบรรเทาทุกข์จากอินเดียบนเครื่องบินทหารก็มาลงจอดท่ีย่างกุ้งแล้วเช่นกัน

รัสเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ยังส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์และบุคลากรมาด้วย

สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เปิดเผยว่าสมาคมตระหนักถึงความต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน

“อาเซียนพร้อมสนับสนุนความพยายามช่วยเหลือบรรเทาทุกข์และการฟื้นฟู” กลุ่มระบุในคำแถลง

เกาหลีใต้ระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเบื้องต้นมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์แก่พม่าผ่านองค์กรระหว่างประเทศ

สหรัฐฯ ที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีนักกับกองทัพพม่าและคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของพม่า รวมถึงพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือบางส่วน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำรัฐบาลทหารพม่า ตามการระบุของสถานทูตจีนในพม่า และกล่าวว่าปักกิ่งจะให้ความช่วยเหลือมูลค่า 13.77 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งเต็นท์ ผ้าห่ม และชุดปฐมพยาบาล

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วงเที่ยงของวันศุกร์ ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ของพม่า ตั้งแต่ที่ราบภาคกลางรอบมัณฑะเลย์ไปจนถึงเนินเขาในรัฐชาน ที่บางส่วนไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหาร

หลังจากถูกช่วยออกมาจากซากปรักหักพังในมัณฑะเลย์ เต๊ต มิน อู อายุ 25 ปี กล่าวว่าเขาพยายามที่จะรื้อซากปรักหักพังของอาคารที่พังถล่มด้วยตัวเองเพื่อช่วยยายและลุงของเขา แต่สุดท้ายก็ต้องถอดใจ

“ผมไม่รู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ใต้ซากปรักหักพังนี้หรือไม่ มันผ่านไปนานมากแล้ว ผมคิดว่าไม่มีความหวังแล้ว” เต๊ต มิน อู กล่าวทั้งน้ำตา

ชาวบ้านอีกคนหนึ่งกล่าวทางโทรศัพท์ว่าปฏิบัติการกู้ภัยในเมืองมัณฑะเลย์ไม่สามารถเทียบกับขนาดของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้

“หลายคนติดอยู่แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือ เพราะไม่มีกำลังคน ไม่มีอุปกรณ์ หรือแม้แต่ยานพาหนะ” ชาวเมืองมัณฑะเลย์ กล่าว.