ชาวยูเครนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมายภายใต้โครงการด้านมนุษยธรรมได้รับอีเมลแจ้งในสัปดาห์นี้ว่าสถานะของพวกเขาถูก “เพิกถอน” และพวกเขามีเวลา 7 วันที่จะเดินทางออกจากสหรัฐอเมริกา “ก่อนที่จะเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจะออกไปตามหาพวกคุณ”
โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (DHS) แถลงวานนี้ (4 เม.ย.) ว่า อีเมลดังกล่าวถูกส่งออกไปด้วย “ความผิดพลาด” และโครงการช่วยเหลือชาวยูเครนที่เริ่มขึ้นในปี 2022 หลังจากรัสเซียเปิดศึกรุกรานยังไม่ได้ถูกยกเลิกแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ยังไม่ทราบชัดเจนว่ามีชาวยูเครนกี่มากน้อยที่ได้รับอีเมลฉบับนี้
รอยเตอร์รายงานเมื่อเดือน มี.ค. ว่า รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนที่จะเพิกถอนสถานะผู้พำนักถูกกฎหมายชั่วคราวของชาวยูเครน 240,000 คนที่หนีภัยสงครามมาจากรัสเซีย ตามโครงการเปิดรับชาวยูเครนของรัฐบาล โจ ไบเดน
“หากท่านไม่เดินทางออกจากสหรัฐอเมริกาในทันที หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอาจบังคับส่งตัวท่านออกจากสหรัฐอเมริกา” เนื้อหาในอีเมลที่ส่งเมื่อวันพฤหัสบดี (3) ระบุ “ขอย้ำอีกครั้งหนึ่ง กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้ยกเลิกทัณฑ์บน (parole) ของท่าน และขออย่าได้พยายามอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาต่อไป”
อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นไม่นานกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ได้ออกบันทึกข้อความตามหลังมาในวันศุกร์ (4) ระบุว่าคำสั่งเนรเทศเหล่านั้นถูกส่งออกไปอย่างไม่ถูกต้อง และ “เงื่อนไขทัณฑ์บนสำหรับท่านยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในขณะนี้”
หนึ่งในชาวยูเครนที่ไม่ประสงค์ออกนามเนื่องจากเกรงจะได้รับบทลงโทษจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า “ฉันหายใจไม่ทั่วท้องเลย และร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่” หลังจากที่ได้รับอีเมล
หญิงรายนี้เล่าว่า เธอเพิ่งจะไปต่อสถานะผู้พำนักเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว และได้รับแจ้งว่าจะมีผลไปอีก 2 ปี และนั่นทำให้เธอต้องคิดทบทวนหนักมากว่าไปทำอะไรผิดมาถึงได้ถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ
“ฉันไม่เคยมีแม้กระทั่งตั๋วจอดรถ และไม่เคยโพสต์อะไรลงโซเชียลมีเดียเลย” เธอบอก
แองเจลา โบเลนส์ ประธานองค์กรไม่แสวงผลกำไร IA NICE ในรัฐไอโอวาที่รับเป็นสปอนเซอร์ให้แก่ชาวยูเครนหลายสิบคน ระบุว่าเท่าที่เธอทราบมีผู้หญิงยูเครนอย่างน้อย 2 คนได้รับจดหมายนี้ และหนึ่งในนั้นกำลังตั้งครรภ์
“มันเป็นจดหมายที่สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกเขามาก ฉันเคยบอกพวกเขาว่าหากถูกยกเลิกสถานะก็ยังมีเวลาเตรียมตัว แต่อีเมลฉบับนี้มันต่างออกไป” เธอกล่าว
ที่มา: รอยเตอร์