กรมป่าไม้ส่งชุดพยัคฆ์ไพรกลับเข้าไปในพื้นที่ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีอีกครั้ง หลังข้อมูลการสืบสวนพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าตกพรม ปรับไถพื้นที่บนภูเขาปลูกทุเรียน ขณะลงพื้นที่ตรวจพบการทำไม้หวงห้าม และพบไม้ป่าธรรมชาติยืนต้นตายในพื้นที่
เมื่อวันที่ 5 เมษายน สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ โดยหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ได้รับข้อสั่งการจากนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ให้เดินหน้าต่อเนื่องในการตรวจยึด และดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเพื่อปลูกพืชเกษตร โดยเฉพาะทุเรียน ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ จันทบุรี ตราด ระยอง และฉะเชิงเทรา ภายใต้ยุทธการ "พิทักษ์ผืนป่าตะวันออก"
โดยนายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ได้มอบหมายให้นายพลกฤษณ์ ผิวคล้ำ หัวหน้าฝ่ายปราบปรามและคดีพิเศษ นำกำลังเจ้าหน้าที่ย้อนกลับเข้าไปในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีอีกครั้ง โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) เจ้าหน้าที่สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) และตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เป้าหมายคือสวนทุเรียนบนยอดเขาท้องที่หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี จากการตรวจสอบพบรูปแบบการบุกรุก เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา คือใช้เครื่องจักรกลหนักเข้ามาปรับพื้นที่เป็นขั้นบันได มีการปลูกต้นทุเรียนอายุไม่เกิน 1 ปี 250 ต้น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พบมีการทำไม้หวงห้าม ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ 2530 ตรวจสอบเป็นไม้พยอมทั้งท่อนและแปรรูป โดยในพื้นที่ยังคงปรากฏต้นไม้ขนาดใหญ่ บางส่วนถูกทำให้ยืนต้นตาย เจ้าหน้าที่จึงได้จับค่าพิกัดรอบแปลงที่ดิน คำนวณเนื้อที่ได้ 10-0-40 ไร่ และจากการใช้อากาศยานไร้คนขับ ปฏิบัติการบินถ่ายภาพบริเวณแปลงที่เกิดเหตุ บันทึกภาพลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่ เมื่อนำมาตรวจสอบกับระบบภูมิสารสนเทศ พบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าตกพรม ไม่ปรากฏการสำรวจถือครอง เพื่อดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) และไม่พบการอนุญาตหรือสิทธิครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในที่ดินแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ และไม้หวงห้ามทั้งหมด พร้อมนำเรื่องราวแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตกพรม ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 มาตรา 26/4 และพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 73 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี และมาตรา 69 เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป