“น้าเดช” ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ เผยลูก “นายกเบี้ยว” ท่องคาถาผิด จากโจทก์กลายเป็นจำเลย ระบุ ยังโชคดีไม่เจอคนศีลเสมอกัน เตือนอยู่บนท้องถนนรู้จักอโหสิและให้อภัย
จากกรณี นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ “พีช” ลูกชายนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี หรือนายกเบี้ยว ก่อเหตุขับรถ BMW ไล่บี้รถคู่กรณี เป็นเหตุให้ นายสมบูรณ์ (นามสมมติ) อายุ 65 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซี่โครงหัก ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู และ นางวรรณา (นามสมมติ) อายุ 64 ปี ภรรยา ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-บางพลี เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา สร้างความสะเทือนใจและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 เม.ย. “น้าเดช” นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ สื่อสารมวลชนด้านยานยนต์ และผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า
“ไล่ตาม ทำไร เอ๊ย ไทม์ไลน์ จากคลิปแรก ลุงปิกอัพผิด เพราะเข้าไปปาดเขาในเลนของเขา ส่วนจะปาดเพราะเผลอหรือเพราะเห็นว่าเป็นทางตรงก็ตามแต่ ทางกฎหมายคือ ลุงผิด
เมื่อผิดแล้ว บีเอ็มโกรธ อันนี้ก็เป็นธรรมดามนุษย์ที่ โทสะบังเกิด แต่โลกสวยก็ต้องบอกว่า อโหสิให้กฎหมายจัดการ ถ้าคิดแบบโลกไม่สวยมาก กูโกรธ กูต้องสั่งสอน ก็ขับตามไปปาดกลับสักทีก็น่าจะจบ
แต่บีเอ็มดันท่องคาถาผิด แทนที่จะท่องคาถา “ช่างแม่ง” ดันไปท่องคาถา “เดี๋ยวเถอะแม่ง รู้จักกูน้อยไป” แทนที่จะปาดสั่งสอนทีเดียวแล้วจบ ดันไปไล่จี้ไล่ต้อนไล่ตบจนเกิดเรื่อง จากโจทก์จึงกลายเป็นจำเลยทันที
โชคดีของบีเอ็มที่ไปเจอลุงแก่กับป้าแก่อายุหกสิบ ถ้าไปเจอไอ้แก่ที่คิดกลับบ้างว่า “อ้าว ไอ้…. ถ้างั้นเจอกัน” ผมว่าด้วยโครงสร้างของรถ และถ้าฝีมือพอๆ กัน บีเอ็มจะโดนงัดจนหงายแน่นอนครับ
อยู่บนท้องถนน จงรู้จัก อโหสิ และอภัย ครับ
และ “มึงเชื่อกูไหม” ท้ายที่สุดคือ “จบๆ กันไป ไม่ติดใจเอาความ” เพราะคิดว่าเป็นคดีจราจร แต่ถ้าสมมติว่า “แจ้งความพยายามฆ่า” ขึ้นมาละก็ “ยาว” เชื่อกูเถอะ เพราะ “พอจะพิสูจน์ทราบได้จากคลิป”………กูไม่ใช่นักกฎหมาย กูเดาล้วนๆ