xs
xsm
sm
md
lg

ปมร้อนข่าวลึก : กลิ่นตุๆ งบ 90 กว่าล้าน กทม.ซ่อมรถดับเพลิง งุบงิบ รวบรัด ส่อล็อกประมูล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ปมร้อนข่าวลึก

กทม.ฉาวอีก ยื่นป.ป.ช.-สตง.-ป.ป.ท.สอบกลิ่นตุๆ เสาชิงช้า หลังพบความผิดปกติงบประกวดราคาจ้างเหมาซ่อมรถดับเพลิงบันไดสูง กทม. เปิดหนังสือร้องเรียน ชี้พฤติกรรม ทำแบบงุบงิบ-รวบรัด ข้องใจ สปภ. รู้เห็นเป็นใจเอื้อเอกชนทุจริต 
กรุงเทพมหานคร ภายใต้การบริหารงานของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนพ.ค. 2559 ซึ่งที่ผ่านมา เกิดข้อร้องเรียนและการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนหลายครั้งในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง การประมูลงานต่างๆของกทม. ที่ถูกวิจารณ์เรื่องความคุ้มค่าของงบประมาณและความโปร่งใส เช่น โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายสำหรับศูนย์นันทนาการฯ และศูนย์กีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว (สวท.)-งบโครงการจ้างประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร ให้เป็น “มหานครแห่งกีฬา” ที่ตั้งราคากลาง 40 ล้านบาท ปรากฏว่า บริษัทที่ได้งานชนะการประมูลไปได้งานในราคา 39.6 ล้านบาทท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่คุ้มค่าที่ต้องใช้งบหลายสิบล้านบาทในการประชาสัมพันธ์หรือเรื่องโครงการ ป้ายรถเมล์รูปแบบใหม่ที่ถูกมองว่า ราคาแพงกว่าปกติ โดยที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชน เช่น กล้องวงจรปิด จอแสดงรายละเอียดเส้นทางเดินรถ ฯลฯ เป็นต้น

ล่าสุด พบความผิดปกติเกิดขึ้นในประกวดราคาจ้างด้วยวิธีประกวดราคาแบบคัดเลือก จ้างเหมาซ่อมรถดับเพลิงพร้อมบันไดสูงไม่น้อยกว่า 13 เมตร ยี่ห้อ สไตเออร์ จนมีการยื่นเรื่องร้องเรียนถึงองค์กรอิสระ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)-สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว รวมถึงส่งหนังสือร้องเรียนถึงนายชัชชาติ ผู้ว่าฯกทม.โดยตรงด้วย

โดยมีรายงานว่าในวันนี้ 22 เม.ย.ได้มีการส่งหนังสือร้องเรียนและขอให้มีการตรวจสอบ การประกวดราคาจ้างด้วยวิธีประกวดราคาแบบคัดเลือก ของกรุงเทพมหานคร ที่ทำถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร, สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน,คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน,สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามทุจริตแห่งชาติ และ สำนักงานและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ(ปปท.)  

รายงานข่าวแจ้งว่า หนังสือร้องเรียนความผิดปกติของเรื่องดังกล่าว พบว่า บริษัทเทพยนต์ แอโรโมทีฟ อินดัสตรีส์ จำกัดร้องเรียนว่า ได้ตรวจสอบพบว่าเกิดการทุจริตในการประกวดราคาที่เกิดขึ้นจากการประกวดราคาจ้างเหมาซ่อมรถดับเพลิงบันไดสูงไม่น้อยกว่า 13 เมตร ยี่ห้อสไตเออร์ จำนวน 18 คัน โดยวิธีการคัดเลือก ตามประกาศของ กรุงเทพมหานคร จากกรมบัญชีกลาง
หนังสือดังกล่าวระบุว่า เนื่องด้วยวันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2567 ทางบริษัทเทพยนต์ ได้เข้าไปสำรวจรถดับเพลิงที่มีบันไดสูงไม่ต่ำกว่า 13 เมตร  จำนวน 18 คัน อาทิเช่นรถดับเพลิงพร้อมบันไดสูงไม่น้อยกว่า 13 เมตร ยี่ห้อ สไตเยอร์ รุ่น VANL 820773Y039888 (MT) ทะเบียน 99-0169 กปก.1 สดพ.(สถานีดับเพลิง) พญาไท-รถดับเพลิงพร้อมบันไดสูงไม่น้อยกว่า 13 เมตร ยี่ห้อ สไตเยอร์ รุ่น VANL 821002Y048591 (MT) ทะเบียน 99-0109 กปก.1 สดพ.บางกระปิ-รถดับเพลิงพร้อมบันไดสูงไม่น้อยกว่า 13 เมตร ยี่ห้อ สไตเยอร์ รุ่น VANL 820998Y048288 (MT) ทะเบียน 9901-61 กปก.1 สดพ.ดุสิต-รถดับเพลิงพร้อมบันไดสูงไม่น้อยกว่า 13 เมตร ยี่ห้อ สไตเยอร์ รุ่น VANL 820998Y048288 (MT) ทะเบียน 9901-61 กปก.1 สดพ.ดุสิต เป็นต้น

หนังสือดังกล่าวให้รายละเอียดว่า หลังจากนั้นทางบริษัท ได้ทำรายการซ่อมและราคา เพื่อนำไปตั้งราคากลางให้ จำนวนเงินคือ 20,115,676.86 บาท ส่งเอกสาร ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 และ หลังจากนั้น ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ทางสปภ.(สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร) ได้ส่งไฟล์ราคากลาง (ใหม่) มาให้ ซึ่งต่างจากที่บริษัทฯไปออกรายการอย่างสิ้นเชิง ทางบริษัท ก็ได้ทำราคาใหม่ให้ตามรายการที่ทาง สปภ.ส่งมาให้ โดยราคาอะไหล่นั้นมีข้อผิดพลาดและซ้ำอยู่หลายข้อซึ่งทางบริษัทได้ใส่หมายเหตุไว้ให้แล้วว่ารายการดังกล่างนั้นซ้ำกัน ซึ่งราคาได้เพิ่มขึ้นเป็น 45,675,718 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม กว่า25 ล้านบาท

แต่สุดท้ายราคากลางที่ออกมาคือ 94,534,720บาท ซึ่งมากกว่าที่บริษัทฯทำรายการเสนอราคาเพื่อจัดตั้งราคากลางไป 2 เท่า หรือ ประมาณ48 ล้าน

หนังสือดังกล่าวระบุว่า ซึ่งราคากลางที่ปรากฏบนเว็บไซด์นั้น ถูกแสดงบนเว็บไซด์กรมบัญชีกลาง ในวันที่ 31 มีนาคม 2568 แต่ ให้ยื่นซองเสนอราคา วันที่ 1 เมษายน 2568 ซึ่งห่างกันเพียงแค่ 1วันเท่านั้น ซึ่งทางบริษัทฯได้รับเอกสารเชิญชวนในวันที่ 28 มีนาคม 2568 ช่วงเย็น ซึ่งเป็นวันศุกร์ และให้ยื่นซองประมูลวันที่ 1 เมษายน 2568 ซึ่งมีเวลาอ่านทบทวนและพิจารณาไม่ถึง 3วัน และต้องอ่านเอกสารฉบับสมบูรณ์ใหม่ตั้งแต่ต้น รวมถึงเช็ครายการราคากลางใหม่ว่าราการมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ตั้งแต่ต้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเสนอราคาอย่างตรงไปตรงมา

“จึงอยากทราบว่าเป็นการจงใจส่งเอกสารช้าเพื่อที่ทำให้ทางบริษัทไม่สามารถแข่งขันได้หรือไม่ แต่สิ่งชวนให้คิดว่าทางสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและบริษัทผู้ชนะการเสนอราคามีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการทุจริตคือ การที่ มี ผู้เข้าร่วมเสนอราคากลาง 4 ราย ผู้ที่ได้รับเอกสารเชิญชวนก็ต้อง 4 ราย เนื่องจากเป็นการเสนอราคาแบบคัดเลือก แต่ว่า ผู้ที่ชนะการเสนอราคา ชนะการประมูลด้วยราคา 94,530,180.00 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคากลางเพียงแค่ 4,540 บาท”หนังสือดังกล่าวระบุ

ที่น่าสนใจ หนังสือร้องเรียนดังกล่าว มีการอ้างอิงข้อมูลหลักฐานประกอบเพื่อแสดงให้เห็นถึงข้อสงสัยของผู้ร้องเรียนไว้ หลายจุดเช่น การออกรายการอะไหล่ซ้ำๆแบบแยกส่วน เพื่อเพิ่มราคาและเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ

“ตัวอย่างการซื้อซีลและปะเก็นต่างๆที่จะซ่อมเครื่องยนต์ 1ลูก แบบแยกส่วน ประกอบด้วยซีล และ ปะเก็น หลายส่วนมาก ทำให้บริษัทเอกชนเพิ่มช่องว่างในการใส่ราคาเพิ่มเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ รวมทั้งอาจเป็นการรู้เห็นของภาครัฐที่จะทุจริตร่วมกับบริษัทเอกชนเพื่อผลประโยชน์ส่วนใดส่วนหนึ่ง

และยังมีเรื่องการตั้งราคากลางที่เกินความเป็นจริงโดยเจ้าหน้าที่และกรรมการที่ปราศจากความรู้ความสามารถ จนราคาถึงมากกว่าความเป็นจริงได้มากกว่า 10เท่า แบบนี้จงใจทุจริตโดยเจตนาหรือไม่ ในเอกสารรายละเอียดการซ่อมของรถแต่ละคันที่เป็นชุดที่ใช้แนบกับ TOR ในการประมูลครั้งนี้ ไม่มีการใส่เลขParts Number ของอะไหล่แต่ละชิ้นว่าเป็นเลขตัวไหน เพื่อนำไปตรวจสอบหาอะไหล่ที่ถูกต้องของชิ้นส่วนนั้นๆ

ส่งผลให้เกิดช่องทางในการโกงกินงบประมาณในการจัดซ่อมรถดับเพลิงเหล่านี้ เนื่องจากว่าไม่ได้จำหนดเลข OEM หรือ เลขรหัสแท้จากผู้ผลิต ทำให้หาของง่ายๆหรือของเทียมทั่วๆไปใส่ได้ เพื่อลดต้นทุนแต่รัฐจะได้ของไม่ดีไปใช้” 

รวมถึงยังมีอีกหลายจุดที่หนังสือร้องเรียนดังกล่าว ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติของการตั้งงบประมาณดังกล่าว

ในตอนท้าย หนังสือดังกล่าว ที่ลงชื่อโดย นายปราโมทย์ นาคีสถิตย์   กรรมการผู้จัดการ ระบุว่า บริษัทเทพยนต์ แอโรโมทีฟ อินดัสตรีส์ จำกัด พบว่าการออกรายการครั้งนี้นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริงอย่างร้ายแรงและมีหลายปัจจัยที่ส่อถึงการทุจริต จงใจทุจริตและทุจริตทางนโยบายหลายๆประการจึงขอร้องเรียนกับทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ว่ามีการทุจริตเป็นจำนวนเงินกว่า 10,000,000 บาท

ดังนั้น หลังจากนี้ต้องติดตามว่า ทางผู้บริหารกรุงเทพมหานคร รวมถึงองค์กรอิสระที่ได้หนังสือร้องเรียนดังกล่าว ทั้งสตง.-สำนักงานป.ป.ช.และป.ป.ท.ที่เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม จะเข้ามาตรวจสอบ-สอบสวนเรื่องนี้อย่างไร เพื่อเคลียร์เรื่องดังกล่าว จะได้ป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้นและทำให้เงินภาษีประชาชน ไม่รั่วไหล
กำลังโหลดความคิดเห็น