รวบ โจรเสื้อวิน ใช้ปืนชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวรัสเซียในเมืองพัทยา ประวัติเพิ่งพ้นคุกไม่นาน

ศูนย์ข่าวศรีราชา –ตร.พัทยา สนธิกำลังร่วมตำรวจท่องเที่ยว  รวบ “แมค คอลาย” โจรเสื้อวิน ใช้ปืนชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวรัสเซีย สารภาพหาเงินใช้จ่ายประจำวัน ประวัติมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและปล้นทรัพย์เพิ่งออกจากคุกไม่ด้าน ด้าน ผบช.ภ.2 ชมเปาะตำรวจทำงานเร็ว กำชับเข้มงวดจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 


เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ ( 22 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา นำโดย พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รองผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ต่อลาภ ตินะมาตร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้เข้าควบคุมตัว นายอุกฤษฎ์ มั่งคั่ง หรือ “แมค คอลาย” อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธปืนในครอบครอง และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต

การจับกุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนข่มขู่นักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย บริเวณซอยพระตำหนัก 6 เมืองพัทยา จนผู้เสียหายต้องยอมมอบเงินสดจำนวน 3,000 บาทให้ เพื่อรักษาความปลอดภัยของลูกสาววัย 3 ขวบ ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป

โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณปากซอยเลียบชายหาดพัทยา 13/4 ขณะนั่งกินข้าวกับเพื่อนบริเวณริมหาด อย่างไม่สะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยึดของกลางเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการหลบหนี


เบื้องต้น นายอุกฤษฎ์ หรือแมค คอลาย ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยเงินที่ได้นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พร้อมกล่าวขอโทษสังคมและยืนยันไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่เป็นเพราะชีวิตบีบบังคับ และยอมรับว่าเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ใช้เพื่ออำพรางตัวเท่านั้น

และจากการตรวจสอบประวัติ นายอุกฤษฎ์ พบว่าเคยมีประวัติคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและปล้นทรัพย์ อีกทั้งยังเคยต้องโทษมาก่อนและเพิ่งพ้นโทษมาได้ไม่นาน สุดท้ายก่อเหตุซ้ำ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ


ผบช.ภ.2 ชมเปาะตำรวจทำงานรวดเร็ว กำชับเข้มงวดจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ

ด้าน พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 เผยว่าหลังเกิดเหตุคนร้ายสวมเสื้อวินรถจักรยานยนต์สีแสด สวมหมวกกันน็อกตระเวนชิงทรัพย์ในพื้นที่เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยาได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างรวดเร็ว จนพบว่าคนร้ายเป็นชายไทย อายุ30 ปี พฤติกรรมเป็นภัยสังคม ก่อเหตุอย่างอุกอาจ และเป็นคนที่ตำรวจกำลังติดตามจับตัวเนื่องจากมีหมายจับของศาล ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมในคดีอาญาอื่น ๆ

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา ป้องกันเหตุเร่งกวาดล้างผู้ต้องหาตามหมายจับ บุคคลที่มีพฤติกรรมอันตราย กวาดล้างอาวุธปืน สิ่งผิดกฎหมายเพื่อสร้างความอุ่นใจและความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวว่าพัทยาเป็นเมืองปลอดภัย และขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเชื่อมั่นในตำรวจไทย