xs
xsm
sm
md
lg

PLANET#3 โป๊ปฟรานซิส ปากเสียงคนยากจน-ทรงไฝว้‘ทรัมป์’สุดๆ-ทรงยื่นหัตถ์ไปยัง LGBT & ทรงล้างบางพวกบาทหลวงสีเทา ตอนนี้รอลุ้นองค์ใหม่ จะผิวดำผิวเหลืองไหม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


พระสันตะปาปาฟรานซิส เป็นโป๊ปพระองค์แรกในบรรดาโป๊ปทั้งหมด 266 องค์ที่เลือกใช้นามของนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี ผู้ซึ่งโดดเด่นในด้านการถือศีลยากจน ดังนั้น พระนามของโป๊ปฟรานซิสจึงไม่มีหมายเลขกำกับ โป๊ปทรงมีจิตอธิษฐานแน่วแน่ในการถือศีลยากจนตามรอยแห่งนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี และตามคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ที่กล่าวว่า อูฐลอดรูเข็มได้ง่ายกว่าที่คนมั่งมีจะผ่านเข้าสู่พระราชัยสวรรค์ คุณลักษณ์แห่งความเรียบง่าย ถ่อมตน และใส่ใจต่อความทุกข์ร้อนของคนยากคนจน ส่งอานิสงส์ให้พระองค์เป็นที่รักและศรัทธาของชาวโลก ซีเอ็นเอ็นรายงานอย่างนั้น พร้อมกับบอกด้วยว่าโป๊ปฟรานซิสทรงไม่เป็นที่โปรดปรานของชาวคาทอลิกในสายอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง และยิ่งโป๊บทรงวิพากษ์วิจารณ์ภัยร้ายแรงของทุนนิยมในด้านต่างๆ รวมทั้งด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโลก พระองค์ก็ยิ่งต้องประสบกับแรงกดดันจากกลุ่มพลังคาทอลิกสายอนุรักษ์นิยมในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นกลุ่มผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจการเมืองที่ทรงอำนาจอย่างอุกฤษฎ์ในระดับโลก สำหรับอนาคตอันใกล้ ฝ่ายต่างๆ รอลุ้นจะได้เห็นโป๊ปผิวดำ หรือโป๊ปจากเอเชีย
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงกลับคืนสู่พระหัตถ์อบอุ่นแห่งพระผู้เป็นเจ้าในวันอีสเตอร์มันเดย์ 21 เมษายน 2025 โดยฝากความทรงจำดีงามมากมายไว้ในดวงใจของเยาวชนคาทอลิก ซึ่งสกายนิวส์ สื่อยักษ์ชั้นแนวหน้าของยุโรประบุว่า แม้โป๊ปฟรานซิสจะมีพระชนมายุแก่เฒ่านักหนา แต่ทรงป๊อปปูลาร์สูงยิ่งในแวดวงหนุ่มสาวและเด็กน้อยชาวคาทอลิก

ปรากฏการณ์น่าชื่นชมนี้เป็นผลจากพระบุคลิกและพระวิสัยทัศน์อันเปี่ยมเมตตาและใจกว้าง ตลอดจนพระโลกทัศน์หัวก้าวหน้าซึ่งทรงยอมรับความหลากหลายได้อย่างมหาศาล

พระสันตะปาปาฟรานซิส ผู้ทรงเป็นโป๊ปองค์ที่ 266 ของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงฉีกแนวออกจากโป๊ปพระองค์ต่างๆ รวมถึงโป๊ปเบเนดิกต์ซึ่งทรงลาออก และหลังจากนั้น ชาวคาทอลิกก็ได้โป๊ปฟรานซิสเป็นสันตะปาปา และเป็นปะป๊าทางจิตวิญญาณ ผู้ทรงออกโรงต่อสู้คัดค้านความไม่ถูกต้อง การใช้ความรุนแรงบีฑาเพื่อนมนุษย์ ตลอดจนทรงเลิกเอาใจคนรวย แล้วให้ความสำคัญแก่คนยากจน เป็นที่ประทับใจของเยาวชนเจเนอเรชันใหม่ๆ

ยิ่งกว่านั้น โป๊ปฟรานซิสทรงเปิดกว้างมากขึ้นให้แก่ความหลากหลายทางเพศ ทรงโอบกอดต้อนรับชาว LGBTQ แม้จะไม่ถึงกับยอมรับเต็มที่เพราะพระศาสนจักรมีข้อกำหนดห้ามไว้ตั้งแต่ยุคโบราณ ในเวลาเดียวกัน โป๊ปฟรานซิสทรงเรียกร้องให้สัตบุรุษใส่ใจช่วยกันแก้ไขวิกฤติโลกร้อน อีกทั้งยังอ้อนวอนขอร้องออกสื่ออย่างตรงไปตรงมาว่า ขอให้การเข่นฆ่าประชาชนในฉนวนกาซ่ายุติโดยเร็ว สกายนิวส์รายงาน

แม้แต่ความผิดพลาดแต่เก่าก่อนที่ศาสนาคริสต์เคยมีส่วนร่วมในยุคล่าอาณานิคมบนผืนแผ่นดินลาตินอเมริกา โป๊ปฟรานซิสก็ทรงขออภัยในนามของวาติกัน ในคราวเสด็จเยือนประเทศโบลิเวียเมื่อปี 2013 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2022 โป๊ปก็ทรงขออภัยที่พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งโรงเรียนประจำในแคนาดาเมื่อสองร้อยปีก่อนเพื่อจะเปลี่ยนแปลงคนพื้นเมืองให้หันมาเป็นชาวคริสต์

สกายนิวส์รายงานว่าแม้ความเคลื่อนไหวทั้งสองประการนี้ ส่งผลให้กลุ่มต่างๆ ในพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกรู้สึกบาดหมางต่อพระองค์ แต่อานิสงส์จากเรื่องนี้ส่งให้สาธารณชนหันมาชื่นชมในวิสัยทัศน์ของพระองค์กันอย่างกว้างขวาง

ชาวอาร์เจนตินาจัดไว้อาลัยโป๊ปฟรานซิสในทุกโบสถ์

ประชาชนออกไปชุมนุมที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์สในกรุงวาติกัน หลังทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อ 21 เมษายน

อีกมุมหนึ่งของจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์สในกรุงวาติกัน ซึ่งเนืองแน่นด้วยคริสตชนชาวคาทอลิก และบางส่วนตั้งขบวนแห่ไว้อาลัยถวายแด่โป๊ป เมื่อ 21 เมษายน 2025

การสิ้นพระชนม์ของโป๊ปฟรานซินได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งปวงในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย ภาพนี้ของรอยเตอร์นำเอาหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ใหญ่ 4 ค่ายมาให้เห็นว่าสื่อมวลชนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับข่าวของประมุขแห่งคริสต์ศาสนจักรโรมันคาทอลิก

ภาพของโป๊ปฟรานซิสซึ่งประทับนั่งรถเข็น เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2025 ก่อนเข้าโรงพยาบาลใน 11 วันต่อมา พระองค์ทรงป่วยไข้ด้วยโรคปอดอักเสบทั้งสองข้าง กระนั้นก็ตาม ความสุขจากภายในของพระองค์ฉายออกมาให้เป็นที่ประจักษ์ต่อผู้พบเห็น
ทั้งนี้ ในการสำรวจความคิดเห็นของชาวคาทอลิกที่อังกฤษเมื่อปี 2020 พบว่า 50% เห็นว่าโป๊ปฟรานซิสทรงสร้างความเปลี่ยนแปลง “เพื่อสิ่งที่ดีขึ้น” และมีเพียง 7% ที่ไม่เห็นด้วย

“สื่อมวลชนทั่วโลกแห่กันรายงานข่าวโป๊ปฟรานซิสในทางชื่นชมสนับสนุนอย่างยิ่ง ตั้งแต่วันแรกกันเลยครับ” กล่าวโดย ศ.ดร.สตีเฟน บูลลิแวนต์ แห่งมหาวิทยาลัยเซนต์แมรี ทวิกเคนแฮม กรุงลอนดอน ซึ่งเชี่ยวชาญด้านสังคมวิทยาศาสนา และเป็นผู้รับผิดชอบการทำเซอร์เวย์ดังกล่าว

“ผู้คนจะประทับใจกันว่าโป๊ปทรงเปี่ยมอารมณ์ขัน ทรงมีเมตตากรุณา ทรงมีหัวก้าวหน้า และทรงใส่ใจต่อวิกฤติการณ์สิ่งแวดล้อม คือเรียกได้ว่าพระองค์ทรงมี “แบรนด์” ซึ่งเป็นที่ชื่นชม ดังนั้น ภาพลักษณ์ของโป๊ปคือ ‘ทรงมุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น’ น่ะครับ” ดอกเตอร์สตีเฟน บูลลิแวนต์ กล่าวกับสกายนิวส์

โป๊ปฟรานซิสทรงฉีกแนวจากพระสันตะปาปาท่านอื่นๆ แห่งศักราชเก่าก่อน โดยทรงปฏิเสธความมั่งคั่งร่ำรวย และโอบกอดต้อนรับบรรดาผู้ที่ดำรงชีพในความยากจน รศ.ดร.เจมส์ เคลลี แห่งภาควิชาประวัติศาสตร์คาทอลิก มหาวิทยาลัยเดอแรม ให้ข้อมูลอย่างนั้น

“เรื่องนี้เป็นเพราะภูมิหลังของพระองค์ครับ โป๊ปทรงบวชในคณะสงฆ์เยสุอิต ซึ่งถือศีลยากจน และพระองค์ทรงยืนยันในเรื่องนี้หลายครั้ง” อาจารย์เคลลีเล่าไว้กับสกายนิวส์

โป๊ปฟรานซิสทรงเป็นปากเสียงให้แก่คนยากจนและผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด และทรงเป็นโป๊ปนักปฏิรูปผู้สามารถเอาชนะแรงต้านทานอันเกรี้ยวกราด จนกระทั่งสามารถปรับโฉมของคริสต์ศาสนจักรโรมันคาทอลิกได้อย่างมากมาย ซีเอ็นเอ็น สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา สรุปชีวิตอันยิ่งใหญ่แห่งพระสันตะปาปาฟรานซิส ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวโลกมากกว่า 1,200 ล้านชีวิต

โดยซีเอ็นเอ็นยกตัวอย่างอันเด็ดดวง ได้แก่ กรณีสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงช่วยเหลือสนับสนุนผู้อพยพอย่างเต็มที่ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย และดังนั้น ในหลายเดือนที่ผ่านมา พระองค์ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเนรเทศผู้อพยพอย่างขนานใหญ่ อันที่จริง โป๊ปทรงติเตียนทรัมป์มาตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 โดยทรงออกโรงเตือนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในสหรัฐฯ ว่าขอให้ออกไปโหวตตามจิตสำนึก และตัดสินใจว่าใครคือคนชั่วร้ายน้อยกว่า

หลังจากที่ไฝว้ข้ามทวีปจิกกัดพันตูกัน รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ ซึ่งเป็นชาวคาทอลิกระยะแรก (เพิ่งได้รับศีลล้างบาปเมื่อปี 2019 หลังจากที่ดำรงตนเป็นผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้ามาแต่ไหนแต่ไร แต่ก็ขบคิดเรื่องพระเจ้าเป็นระยะๆ ไม่ได้ขาด และแล้วในวันดีๆ วันหนึ่ง ก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสแห่งพระผู้เป็นเจ้า) ได้รับการเชิญจากโป๊ปให้ไปสนทนากันเบาๆ เนื่องในโอกาสวันฉลองอีสเตอร์ ณ อีสเตอร์ซันเดย์ 20 เมษายน 2025

รายงานหลายค่ายข่าวบอกว่า มีตติ้งนี้เป็นการพบปะกันอย่างส่วนตัว (สนทนาประสาคนคาทอลิกด้วยกัน รวมไม่ถึงสิบนาที) ไม่มีการถกในเรื่องการเมืองแม้แต่น้อย และเจ.ดี.แวนซ์กล่าวลาโดยกราบทูลว่า

“ผมจะสวดภาวนาถวายพระองค์ครับ ขอพระเจ้าอวยพระพรนะครับ” ซีเอ็นเอ็นเล่าไว้อย่างนั้น

แล้วซีเอ็นเอ็นเล่าแถมด้วยว่า ที่ผ่านมา โป๊ปฟรานซิสและคำเทศน์สอนของพระองค์ซึ่งเล่นงานกระแสฮึกเหิมของประชานิยมแนวชาตินิยม ทำให้โป๊ปทรงมักที่จะถูกเตะตัดขาโดยกลุ่มพลังคาทอลิกสายอนุรักษนิยมในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นกลุ่มผลประโยชน์ที่ทรงอำนาจอย่างอุกฤษฎ์ในระดับโลก

เจ.ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา พยายามจะแก้ไขบรรยากาศขัดแย้งหนักๆ ระหว่างรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ กับพระสันตะปาปาฟรานซิส ผู้นำจิตวิญญาณของชาวคาทอลิกซึ่งเป็นที่รักและศรัทธาของสัตบุรุษกว่า 62 ล้านรายในสหรัฐฯ ที่ผ่านมา โป๊ปทรงตำหนิอย่างจริงจังต่อนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อผู้อพยพ  ในภาพนี้ เจ.ดี. แวนซ์ เข้าเยี่ยมคารวะโป๊ปตามคำเชิญจากกรุงวอชิงตัน เมื่อ 20 เมษายน 2025 หลังจากนี้ไม่กี่ชั่วโมง โป๊ปฟรานซิสก็สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการเส้นเลือดในสมอง

หลังจากที่ เจ.ดี. แวนซ์ (ซึ่งรับศีลล้างบาปเข้าเป็นชาวคาทอลิกในปี 2019) ได้เยี่ยมคารวะโป๊ปแล้ว ก็เดินทางไปเข้ามิสซาวันอีสเตอร์ที่วัดเซนต์ปอล พร้อมภริยาและบุตรชายกับบุตรสาววัยอนุบาล

โป๊ปฟรานซิสทรงเป็นขวัญใจสื่อมวลชน ทรงขึ้นปกหนังสือพิมพ์และนิตยสารบ่อยครั้ง ในภาพนี้ทรงขึ้นปกนิตยสารแวนิตีแฟร์ อิตาลี เมื่อเดือนกรกฎาคม 2013
ต้องเป็นอานิสงส์จากโป๊ปฟรานซิส “อินฟลูฯ ผู้ปฏิบัติดีงามสะอาดหมดจด”เพื่อถวายแด่แห่งพระผู้เป็นเจ้าอย่างแน่แท้ จำนวนประชากรโลกกลุ่มคาทอลิกพุ่งทะยานขึ้นอย่างมหาศาลและต่อเนื่องตลอดห้วงที่โป๊ปฟรานซิส ทรงเป็นประมุขแห่งคริสต์จักรคาทอลิก โดยส่วนใหญ่ ทวีจำนวนมากมายในทวีปแอฟริกา และทวีปอเมริกา

แอฟริกาเป็นพื้นถิ่นที่มีผู้คนรับศีลล้างบาปเข้าเป็นชาวคาทอลิกในอัตราที่สูงสุดของโลก โดยมิใช่แค่จะเป็นเพราะสาเหตุว่าภูมิภาคนี้มีอัตราขยายตัวของประชากรสูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ แต่ยังปรากฏตัวเลขชัดเจนว่าสัดส่วนของประชากรในแอฟริกาที่ระบุว่าตนเป็นคาทอลิก ก็ทะยานขึ้นมาในสมัยของโป๊ปฟรานซิสด้วย สกายนิวส์รายงาน

ในด้านของทวีปอเมริกานั้น เป็นการปกติซึ่งดำเนินมาแต่ไหนแต่ไร ที่ประชากรของทวีปนี้เป็นคาทอลิกมากกว่าทวีปอื่นใดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศในอเมริกาใต้ ดังนั้น อัตราขยายตัวของมหาชนชาวคาทอลิกในทวีปอเมริกาจึงคึกคักโดดเด่นเป็นประจำ ในปี 2022 ตัวเลขผู้นับถือศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิกพุ่งขึ้นเป็น 666.2 ล้านราย หรือก็คือ 64% ของประชากรทั้งหมดในทวีปอเมริกา โดยหนึ่งในนั้นคือ เจ.ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ผู้ซึ่งบอกว่าตัดสินใจเข้าพิธีล้างบาปเพื่อเป็นคริสต์ชนหลังจากที่รู้สึกได้ถึงสัมผัสแห่งพระผู้เป็นเจ้า

ในด้านการปฏิรูปและแปลงโฉมคริสต์ศาสนจักรโรมันคาทอลิก โป๊ปฟรานซิสก็ทรงดำเนินการอย่างกล้าหาญเอาจริง ทรงออกมาตรการหลายซีรีส์ในอันที่จะกวาดล้างคอร์รัปชันทางการเงินภายในวาติกัน ทรงแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศที่ระบาดในแวดวงนักบวช รวมทั้งออกกฎหมายเอาผิดบิชอปที่ช่วยปกปิดผู้กระทำผิดด้วย

นอกจากนั้น พระองค์ยังขยายบทบาทของสตรีที่ปฏิบัติงานในวาติกัน และให้อำนาจแก่พระสงฆ์ในการมอบพระหรรษทานแห่งพระผู้เป็นเจ้า แก่สัตบุรุษที่มีคู่ครองชีวิตเป็นบุคคลเพศเดียวกัน ซีเอ็นเอ็นรายงานไว้อย่างละเอียด

พร้อมกันนั้น โป๊ปฟรานซิสยังมอบอำนาจแก่พระสงฆ์ในการอภัยบาปแก่ผู้ที่เคยทำแท้ง ซึ่งเป็นบาปโทษร้ายแรง (จากเดิม เป็นอำนาจของบิชอปขึ้นไปเท่านั้น) โดยที่ว่าถ้าบุคคลเหล่านั้นตั้งใจจริงที่จะได้รับการอภัยจากพระผู้เป็นเจ้าและกลับเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้า โป๊ปก็ถือว่าพวกเขาจะต้องไม่ประสบกับอุปสรรคขัดขวาง เอพีรายงานไว้เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2016

การดำเนินงานที่สำคัญอย่างยิ่งของโป๊ปฟรานซิสคือ ทรงสร้างสะพานบุญไปยังโลกมุสลิม อีกทั้งยังทรงก้าวเข้าไปสร้างสันติสุขในความขัดแย้งทางการเมืองระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสู้รบในยูเครน และในตะวันออกกลาง

ความเมตตาเข้าไปปฏิรูปด้านต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลให้พระองค์ถูกต่อต้านจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมสุดโต่งซึ่งอยู่ภายในองค์กรพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก

แต่ในขณะเดียวกันฝ่ายที่ต้องการการปฏิรูป อาทิ ชาวแคทอลิกหัวก้าวหน้า ก็เรียกร้องให้โป๊ปฟรานซิสเดินหน้าเปลี่ยนแปลงสถานภาพของพระสงฆ์ ด้วยการอนุญาตให้บุรุษที่มีภรรยา สามารถบวชเป็นพระสงฆ์ ตลอดจนเปิดโอกาสให้นักบวชนำเอาเรื่องเกี่ยวกับความรักและการครองคู่ระหว่างคนเพศเดียวกัน เข้าไปอบรมสั่งสอนได้ด้วย

ปัญหาหนักที่โป๊ปฟรานซิสยังต่อสู้และแก้ไขไม่สำเร็จ แม้จะมีการออกมาตรการจริงจังมาหลายซีรีส์แล้วก็ตาม คือ ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก และการล่วงละเมิดในด้านอื่นๆ ที่สร้างความเสียหายต่อคริสต์ศาสนจักรโรมันคาทอลิกอย่างสาหัส ดังจะเห็นข่าวอื้อฉาวเหล่านี้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวเรื่องพระคาทอลิกตุ๋ยเด็กชาย) ผุดขึ้นในประเทศต่างๆ ตลอด 12 ปีที่โป๊ปฟรานซิสทรงเป็นประมุขของชาวคาทอลิกทั่วโลก

การดำเนินงานอันมากมายของโป๊ปฟรานซิส มหาบุรุษแห่งราศีธนู ได้ส่งอานิสงส์ให้มหาชนชาวโลกหันมามองคริสต์ศาสนจักรโรมันคาทอลิกด้วยสายตาอย่างใหม่ ในทางชื่นชม จำนวนประชากรที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกทวีขึ้นอย่างมากมาย ในห้วง 12 ปีที่โป๊ปฟรานซิสทรงเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสหรัฐอเมริกา

ในการนี้ ฝ่ายต่างๆ จึงให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า พระสันตะปาปาพระองค์ใหม่น่าจะปฏิบัติงานด้วยความลำบากใจ ในเมื่อมาตรฐานเชิงจริยธรรมและวิสัยทัศน์ที่โป๊ปฟรานซิสพัฒนาไว้นั้น ยากอย่างยิ่งที่จะเจริญรอยตาม

ในระยะเวลา 15-20 วันข้างหน้า จะเป็นห้วงที่ชาวโลกจับตาว่า ภายใต้โครงสร้างของวาติกันที่ได้รับการปฏิรูปจากโป๊ปฟรานซิส พระคาร์ดินัลที่มีโอกาสจะได้รับหัวโขนโป๊ปของชาวโลก มีความหลากหลายเหลือเกิน

ที่ทำการภาครัฐในสหรัฐอเมริกาลดธงครึ่งเสา เช่นในภาพนี้ ณ ฝั่งตรงข้ามกับ มหาวิหารพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ในนครนิวอาร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมื่อ 21 เมษายน 2025

อายุเป็นเพียงตัวเลขอย่างแท้จริงสำหรับโป๊ปฟรานซิส พระองค์ทรงเมตตาและใจกว้างไม่ถือพระองค์ และทรงทันสมัยกับไลฟ์สไตล์น่ารักของยุคสมัย ในภาพนี้ ทรงร่วมถ่ายเซลฟีกับบรรดาเยาวชนที่เข้าร่วมประชุมและได้เสวนาใกล้ชิดกับพระองค์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2014 ที่นครแทจ็อน ประเทศเกาหลีใต้

โป๊ปฟรานซิสทรงเป็นขวัญใจเยาวชน ภาพนี้เป็นอีกมุมหนึ่งขณะทรงเยือนประเทศเกาหลีใต้ในปี 2014
พระสันตะปาปาองค์ใหม่จะมาจากพระคาร์ดินัล 135 ท่านจากกว่า 90 ชาติ และอาจหมดยุคแล้วที่ โป๊ปจะเป็นคนยุโรป กระแสลุ้นมีสูงว่าประมุขโรมันคาทอลิก “จะเป็นชาวผิวดำ หรือชาวเอเชีย”

การประชุมเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ เป็นการโหวตแบบปิดลับรอบแล้วรอบเล่า (ที่เรียกว่า Conclave ซึ่งมาจากภาษาละติน หมายถึง “โดยอาศัยกุญแจ” อันเป็นการบ่งบอกว่านี่เป็นการโหวตแบบปิด) ว่าพระคาร์ดินัลทั้งปวงจะเลือกพระคาร์ดินัลท่านใดขึ้นเป็นประมุขพระองค์ใหม่ของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก

ทั้งนี้ ผลการโหวตจะสรุปสุดท้ายได้ ต่อเมื่อมีพระคาร์ดินัลท่านหนึ่งที่พระคาร์ดินัลอื่นๆ มากกว่า 2 ใน 3 ร่วมใจกันเลือกขึ้นมา ปรากฏการณ์ในอดีตพบว่า โดยส่วนใหญ่ มักใช้เวลาสองสามวัน แต่ Conclave ในปี 1922 ใช้เวลามากถึง 5 วันกันเลยทีเดียว

เดอะการ์เดียนรายงานอย่างนั้น พร้อมให้ข้อมูลว่า ตัวเลขพระคาร์ดินัลทั้งหมดในปัจจุบันอยู่ที่ 250 ท่านจากประเทศต่างๆ มากกว่า 90 ประเทศ แต่พระคาร์ดินัลที่อายุไม่เกิน 80 ปี จึงจะได้ปฏิบัติหน้าที่นี้ ซึ่งก็คือจำนวนประมาณ 135 ท่าน ดังนั้น โป๊ปพระองค์ใหม่จะเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากพระคาร์ดินัลไม่น้อยกว่า 90 ท่าน

ในการนี้ พระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช วัย 75 ปี ซึ่งได้รับการสถาปนาโดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เป็นพระคาร์ดินัลในปี 2015 จะเข้าร่วมใน Conclave ปี 2025 ด้วย

ข้อมูลที่น่าจับตาคือ ในจำนวนพระคาร์ดินัล 135 ท่าน มีอยู่ 110 ท่านเป็นผู้ที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงแต่งตั้งในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกับพระองค์ คือ คริสตจักรคาทอลิกจะเปิดกว้างให้ครอบคลุมออกไปอย่างทั่วถึง

เมื่อบรรดาพระคาร์ดินัลไปถึงนครรัฐวาติกัน ทุกท่านจะเข้าพักที่ คาซา ซานตา มาร์ตา ซึ่งเป็นเกสต์เฮาส์ 5 ชั้น ภายในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์แห่งนครวาติกัน

หลังจากนั้น การเลือกตั้งแบบปิดลับจะมีขึ้นในโบสถ์น้อยซิสทีน ภายใต้หลังคาแห่งภาพเขียนอันลือเลื่องของไมเคิลแอนเจโล และจุดเริ่มต้นของกระบวนการ Conclave คือ เมื่อมีเสียงประกาศว่า extra omnes หรือก็คือทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องเชิญออกไป และจะเหลือเพียงพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิ์เลือก กับคณะเจ้าหน้าที่ไม่กี่ราย และทีมแพทย์ หลังจากนั้น ประตูทุกบานจะถูกล็อก เดอะการ์เดียนรายงานอย่างนั้น

พระคาร์ดินัลทุกท่านประกาศคำสาบานที่จะเก็บความลับอย่างสมบูรณ์ และจะไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อกับโลกภายนอกตลอดช่วงแห่งกระบวนการเลือกตั้ง ทุกท่านจะไม่ได้ใช้โทรศัพท์ พร้อมนี้ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ จดหมาย หรือข้อความสื่อสารทั้งหลายต้องงดทั้งหมด ยิ่งกว่านั้น โบสถ์น้อยอันทรงคุณค่าของโลกจะถูกตรวจจับหาเครื่องดักฟัง ทั้งก่อนและระหว่างกระบวนการ Conclave

การโหวตมีขึ้นทุกวัน เช้า และบ่าย จนกว่าจะได้พระคาร์ดินัลที่มีผู้สนับสนุนมากถึง 2 ใน 3 โดยจะมีเบรกด้วยการสวดมนต์ในระหว่างวัน และทุกๆ 7 ครั้งที่ทำการโหวต จะเบรกด้วยการภาวนาเข้าสู่ความสงบเพื่อสำรวจกระแสแห่งพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า

ทั้งนี้ การโหวตแต่ละรอบ ใช้วิธีเขียนชื่อพระคาร์ดินัลที่ต้องการเลือก เขียนบนกระดาษโหวตซึ่งบนหัวกระดาษมีข้อความพิมพ์ไว้ว่า eligo in summum pontificem หรือก็คือ ข้าพเจ้าเลือกให้เป็นโป๊ป เมื่อเขียนแล้ว ก็พับและหย่อนลงในถ้วยกาลิกส์ (ถ้วยโลหะที่ใช้ใส่แผ่นศีลและเหล้าองุ่นในพิธีบูชาขอบพระคุณพระผู้เป็นเจ้า)

บัตรเพื่อเขียนชื่อพระคาร์ดินัลในกระบวนการโหวตเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่นี้ ถือเป็นความลับ แต่นั่นมิได้หมายความว่ากระบวนการนี้จะปลอดจากการฮั้ว การใช้เล่ห์กล ตลอดจนการล็อบบี้ล่วงหน้ามาแล้วอย่างครบครัน เดอะการ์เดียน สื่อหัวเอียงซ้าย ระบุไว้อย่างนั้น

แต่ปมสำคัญยิ่งกว่านั้นและต้องจับตาอย่างยิ่ง คือ โอกาสที่พระคาร์ดินัล “กลุ่มน็อนยุโรป” (อย่างเช่นโป๊ปฟรานซิสชาวอาร์เจนไทน์) จะได้ปฏิบัติหน้าที่ประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิก ยังมีอีกสักหนึ่งครั้งไหม หลังจากที่ภารกิจนี้ตกเป็นของชาวยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวอิตาเลียน มากกว่า 90% ในรอบสองพันกว่าปีที่ผ่านมา

ด้วยวิสัยทัศน์ลุ่มลึกและเปิดกว้างของโป๊ปฟรานซิส รูปโฉมขององค์คณะแห่งพระคาร์ดินัลถูกปรับเปลี่ยนในมิติต่างๆ ส่งผลให้สัดส่วนของพระคาร์ดินัลจากภูมิภาคยุโรปที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมเลือกตั้งลับ Conclave ได้นั้น ลดลงเหลือประมาณ 38% แม้จะยังเป็นเสียงส่วนใหญ่ แต่ก็ลดลงจากเมื่อเดิมๆ ที่สูงกว่า 60% ตามการวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยPew Research

โดย 38% เท่ากับประมาณ “1.13 ใน 3” ขณะที่สัดส่วน 2 ใน 3 คือประมาณ 66.67% ในการนี้ ชาวโลกอาจจะได้เห็น Conclave ที่ยาวนานกว่าเกณฑ์เฉลี่ยสองสามวัน เพราะการกระจายตัวยังมีลักษณะเป็นเบี้ยหัวแตก

ดังเห็นได้จากตัวเลขแจกแจงผู้มีสิทธิ์โหวตทั้งหมด 135 ท่าน ที่วิเคราะห์เปรียบเทียบระหว่างปี 2025 กับ ปี 2013 โดย Pew Research ดังนี้
*ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก18%เพิ่มจาก 10%
*ภูมิภาคซับซาฮาร่าแอฟริกา 12%เพิ่มจาก 8%
*ภูมิภาคลาตินอเมริกา-แคริเบียน 18%เพิ่มจาก 17%
*ภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ 3%เพิ่มจาก 2%
=ภูมิภาคยุโรป 40% ลดจาก 51%
=ภูมิภาคอเมริกาเหนือ 10% ลดจาก 12%

ในการนี้ สกายนิวส์ กับ บีบีซี และเอพี ได้แจ้งทราบถึงบางชื่อที่คนในวงการชี้ว่าเข้าข่ายตัวเต็ง ได้แก่

ในสายพระคาร์ดินัลอิตาเลียน: ปีโตร ปาโรลิน, มัตเตโอ ซูปปี, และ ปีแอร์บัตติสตา ปิซซาบอลลา
ในสายพระคาร์ดินัลยุโรปอื่นๆ: ปีเตอร์ แอร์โด จากฮังการี, ไรน์ฮาร์ด มากซ์ จากเยอรมนี, วิม ฟาน เดอ ไอค์ จากเนเธอร์แลนด์, และ มาริโอ เกรค จากมอลต้า
ในสายพระคาร์ดินัลน็อนยุโรป: ปีเตอร์ เทิร์กสัน จากกานา,ฟรีโดลิน เบซุนกู จากคองโก, ลูอิส ทาเกิล จากฟิลิปปินส์, เรย์มอนด์ เบอร์เก้ จากสหรัฐอเมริกา และ โรเบิร์ต พรีวอสต์ จากสหรัฐอเมริกา

กรณีของพระคาร์ดินัลอเมริกันอย่าง โรเบิร์ต พรีวอสต์ นั้น มีการตั้งข้อสังเกตว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะใช้แท็กติกต่างๆ เพื่อหนุนให้พระคาร์ดินัลอเมริกัน ได้ขึ้นเป็นโป๊ปหรือไม่นั้น (ซึ่งโดยพื้นฐาน
ก็มีเสียงภายในกลุ่มเดียวกันมาดถึง 10 เสียงแล้ว) ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ชี้ว่า ปมการเทเสียงให้แก่พระคาร์ดินัลอเมริกันมีอุปสรรคสำคัญคือ โลกไม่ต้องการเห็นสหรัฐฯ มีอำนาจบงการโลกมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จึงอาจเป็นการยากที่พระคาร์ดินัลจากยุโรป จากลาตินอเมริกา และภูมิภาคอื่นๆ จะร่วมใจกันเทเสียงให้

นอกจากนั้น แม้ โรเบิร์ต พรีวอสต์ มีท่าทีเป็นนักปฏิรูป และมีผลงานจากการเป็นมิชชันนารีอเมริกันในประเทศเปรูนานหลายสิบปี แต่ในระยะต่อมาที่เป็นพระคาร์ดินัลแล้ว กลับถูกกล่าวหาบ่อยครั้งในเรื่องการช่วยปกปิดความผิดของบาทหลวงหลายๆ รายที่ถูกประชาชนร้องเรียนในข้อหาการล่วงละเมิดทางเพศ สกายนิวส์ให้ข้อมูลไว้อย่างนั้น

บรรยากาศในโบสถ์น้อยซิสทีนเมื่อปี 2005 พร้อมโต๊ะต่างๆ ที่เรียงต่อเนื่องยาวเหยียดชิดริมกำแพง ถูกเตรียมไว้สนับสนุนกระบวนการโหวตเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ หลังจากที่โป๊ปจอห์นปอลที่ 2 สิ้นพระชนม์

พระคาร์ดินัล ลูอิส อันโตนิโอ ทาเกิล (ชุดดำ) ชาวฟิลิปปิโน เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่มีโอกาสสูงว่าจะได้รับเลือกขึ้นเป็นพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ในภาพนี้ ท่านต้อนรับโป๊ปฟรานซิสในปี 2017 เอพีรายงานเกี่ยวกับท่านลูอิส ตากเล ดังนี้ “ดูเหมือนว่าโป๊ปฟรานซิสเลือกเอาท่านขึ้นเป็นโป๊ปชาวเอเชียคนแรก” โดยเอาตัวท่านซึ่งเป็นอาร์ชบิชอปขวัญใจประชาชน ออกจากกรุงมนิลาไปบริหารงานสำคัญต่างๆ ของวาติกัน ด้านบีบีซีบอกว่าท่านลูอิส ตากเล ได้รับฉายาว่า “ฟรานซิสในเอเชีย” เพราะท่านทุ่มเททำงานเพื่อแก้ไขบรรเทาปัญหาทางสังคม และมีความเห็นอกเห็นใจผู้อพยพอันเป็นโลกทัศน์เดียวกันกับโป๊ปฟรานซิส ทั้งนี้แม้ท่านประกาศคัดค้านการทำแท้ง และการุณฆาต แต่ภาพลักษณ์ของท่านก็ยังปรากฏในโหมดที่กลางๆ และเมื่อท่านอายุเกิน 60 ปี ท่านได้ปรับท่าทีในทางบวกต่อชาวเกย์ และการหย่าร้าง โดยยอมรับและเห็นใจมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นอานิสงส์จากโป๊ปฟรานซิสโดยตรง ในการนี้ ท่านเปิดใจ กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องถูกต้องที่คนเราจะโดนตราหน้า มนุษย์แต่ละคนสมควรที่จะได้รับความเห็นใจและความนับถือ

ภาพถ่ายของโป๊ปฟรานซิสเมื่อครั้งที่ยังเป็นพระหนุ่มใหญ่วัยสามสิบกลางๆ แห่งคณะสงฆ์เยสุอิต ทรงมีพระออร่าผ่องใส เป็นหนุ่มรูปงาน เดลิเมลออนไลน์เล่าว่าในวัยหนุ่มก่อนบวชนั้น พระองค์ซึ่งยังใช้นามว่าฮอร์เก้ แบร์โกกลิโอ มีความรักมอบแก่หญิงสาวนามไพเราะ อมาลีอา ดามอนเต้ ซึ่งเล่าสู่สื่อมวลชนว่าคุณฮอร์เก้ขอเธอแต่งงาน แต่คุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่ายไม่เห็นดีเห็นงามด้วย และคุณฮอร์เก้กล่าวว่า ‘หากผมไม่ได้แต่งงานกับคุณ ผมจะไปบวชเป็นพระ’ คงเป็นบุญของคุณฮอร์เก้เพราะเธอตอบปฏิเสธ เธอเล่าไว้อย่างนั้น ในเวลาต่อมา คุณฮอร์เก้ แบร์โกกลิโอ เข้าศึกษาฝึกฝนเป็นนักเคมีเทคนิค ก่อนจะได้รับแรงบันดาลใจจากบาทหลวงท่านหนึ่ง ซึ่งทำให้คุณฮอร์เก้ตัดสินใจบวชในวัย 32 กะรัต (ค.ศ.1969) แล้วปฏิบัติจริยวัตรของพระในคณะสงฆ์เยสุอิต สี่ปีต่อมา คุณพ่อฮอร์เก้กลายเป็นผู้นำของชุมชนเยสุอิตในท้องถิ่นของท่าน เวลาผ่านไปจนถึงปี 1998 คุณพ่อฮอร์เก้ได้รับแต่งตั้งเป็นอาร์ชบิชอปแห่งบัวโนสไอเรส และได้รับฉายาจากประชาชนว่า “บิชอปแห่งแดนสลัม” เนื่องจากการทุ่มเททำงานช่วยเหลือคนจนในบรรดาพื้นถิ่นที่ขัดสนขาดแคลนมากที่สุดของกรุงบัวโนสไอเรส หลังจากนั้นสามปี (ค.ศ.2001) พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 สถาปนาให้ท่านเป็นพระคาร์ดินัล

หากพระคาร์ดินัลปีเตอร์ โคดโว เทิร์กสัน ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา ท่านจะเป็นพระสันตะปาปาชาวแอฟริกัน องค์ที่ 2 ในสารบบคริสต์ศาสนจักรคาทอลิก บีบีซีรายงานอย่างนั้น ***(โป๊ปพระองค์ดังกล่าวคือ เซนต์เจลาซิอุสที่ 1 โดยเป็นพลเมืองโรมัน ที่ถือกำเนิดในแอฟริกาเหนือบริเวณที่เป็นประเทศโมร็อกโกในปัจจุบัน เพราะในช่วงที่ถือกำเนิด พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน ทั้งนี้ พระองค์เป็นโป๊ปลำดับที่ 49 ระหว่างปีค.ศ.492 - ค.ศ.496)*** พระคาร์ดินัลเทิร์กสันเป็นพลเมืองประเทศกานารายแรกที่ได้รับการสถาปนาเป็นพระคาร์ดินัลโดยโป๊ปจอห์นปอลที่ 2 เมื่อปี 2003 ท่านมีโลกทัศน์ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม แต่ก็มีความสอดคล้องกับโป๊ปฟรานซิสที่คัดค้านการตราหน้าความสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศว่าเป็นอาชญากรรม

พระคาร์ดินัลไมเคิล เชอร์นี เป็นบาทหลวงสายเยสุอิตในแคนาดา ท่านได้รับการสถาปนาจากโป๊ปฟรานซิสในปี 2019 ในวัยหนุ่มนั้นท่านทำงานสังคมสงเคราะห์และสอนหนังสือในย่านลาตินอเมริกาและแอฟริกา และก่อตั้งองค์การสังคมสงเคราะห์ขึ้นในประเทศเคนยาในชื่อว่า เครือข่ายความช่วยเหลือจากเยสุอิตแอฟริกัน โอกาสที่ท่านจะได้รับโหวตให้เป็นสันตะปาปามีสูงทีเดียว เพราะท่านจะป๊อปปูลาร์ในกลุ่มคาร์ดินัลหัวก้าวหน้า และหลายฝ่ายมองว่าท่านซึ่งสนิทกับโป๊ปฟรานซิส จะสืบทอดความตั้งใจต่างๆ ของโป๊ปฟรานซิส กระนั้นก็ตาม บีบีซีชี้ว่าบรรดาคาร์ดินัลไม่น่าจะอยากได้โป๊ปเยสุอิตองค์ที่สอง
คอลัมน์ PLANET No.3

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา: สกายนิวส์ ซีเอ็นเอ็น เอพี เดอะการ์เดียน เดลิเมลออนไลน์)

กำลังโหลดความคิดเห็น