MGR Online - ”อ.ปานเทพ“ พาอดีตข้าราชการ สตง. เคยรับใช้ผู้บริหาร เข้าพบดีเอสไอ มอบหลักฐานสำคัญ "คลิปเสียง-คลิปวิดีโอ" พฤติการณ์ส่อในทางไม่สุจริต นำไปสู่การพังถล่มของตึก สตง.แห่งใหม่
วันนี้ (23 เม.ย.) เวลา 09.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วย นายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อดีตข้าราชการ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในฐานะพยานสำคัญ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมอบพยานเอกสารและพยานวัตถุสำคัญ เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ที่พังถล่ม
นายปานเทพ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีโครงการก่อสร้างตึก สตง.ถล่ม ต้องมองในหลายประเด็น เพียงแค่พิจารณาเรื่องนอมินีเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ โดยแบ่งตั้งแต่ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงการจากที่ จ.ปทุมธานี มาเช่าที่ดินของ รฟท. แล้วทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการออกแบบ จากนั้นก็มีปัญหาการออกแบบไม่สมมาตร ซึ่งผู้เซ็นรับผิดชอบอยู่ในระดับผู้ที่มีใบอนุญาตวุฒิวิศวกรโยธา มีความอาวุโสทางด้านวิชาชีพ มีประสบการณ์ อายุ 85 ปี ซึ่งไม่ได้ออกแบบมานานแล้วใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบตั้งแต่แรก
นายปานเทพ เผยอีกว่า มีการพยายามจะโยนความผิดไปให้ผู้ออกแบบคนเดียว แต่คิดว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นจากผู้ออกแบบคนเดียว หรือบริษัทกลุ่มเดียวเท่านั้น แต่อาจถูกยึดโยงไปเรื่องอื่นด้วย เนื่องจากกระบวนการหลังการออกแบบแล้วนั้น ต้องคัดเลือกเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน และการก่อสร้าง รวมทั้งระหว่างก่อสร้างมีการแก้ไขแบบหลายครั้ง ซึ่งอาจกระทบต่อโครงสร้าง ยังมีเรื่องการปลอมลายเซ็นวิศวกรว่าอาจได้รับการอนุมัติหรือไม่ และที่สำคัญสุดท้ายต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการในส่วนของผู้แทน สตง. นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการตั้งงบประมาณที่มีการเสนอราคาเกินกว่าในท้องตลาด ดังนั้น ทั้งหมดนี้เป็นระบบใหญ่ที่ต้องพิจารณา ไม่ใช่โยนแพะให้คนใดคนหนึ่ง หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะมีส่วนร่วมกันหลายระบบหลายคน
นายปานเทพ เผยต่อว่า โดยวันนี้ได้พาพยานซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ สตง. มีความใกล้ชิดกับผู้บริหาร สตง. และถูกใช้เป็นเครื่องมือทำงานให้หลายอย่าง แต่กลับถูกทอดทิ้งจึงอยากขอทำเพื่อประโยชน์แก่บ้านเมือง โดยมอบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอและคลิปเสียง บันทึกไว้ตั้งแต่ปี 2565 เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก โดยพยานรายนี้ดีเอสไอ อยากให้เข้าพบเพื่อรับฟังข้อมูลเนื่องจากรู้เห็นกระบวนการต่างๆ
"ยังมีข้าราชการ สตง. ทั้งอดีตและปัจจุบัน หลายท่าน ได้ส่งข้อมูลมาให้ที่ส่อไปในทางไม่สุจริต รวมทั้งบันทึกรายงานการประชุมบางส่วน เช่น มีการเสนอไม่ต้องห่วงในเรื่องค่าการออกแบบเพราะมีกรมโยธาธิการและผังเมืองจะเป็นผู้ออกแบบให้ แล้วกรรมการได้หลงเชื่อ แต่สุดท้ายได้ยอมเสียค่าใช้จ่ายว่าจ้างเอกชนเป็นผู้ออกแบบ รวมทั้ง ย้ายจากสถานที่เดิมมาเช่าที่ดินการรถไฟฯ โดยหลักฐานเหล่านี้ตั้งแต่ช่วงปี 2565 นอกจากนี้ คลิปเสียงระหว่างบุคคลอาจใช้เฉพาะในคดีความ เพราะมีการพูดคุยถึงผู้บริหาร คตง. 1 ท่าน มีหน้าห้องเป็นตำรวจอยู่ในนี้ด้วย" นายปานเทพ กล่าว
ด้าน นายณรัฐนันทน์ กล่าวว่า ตนเคยทำงานหลายเรื่องให้กับผู้บริหาร สตง. ล่วงรู้ถึงพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางไม่สุจริตเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ โดยรายละเอียดได้มอบให้ อ.ปานเทพ และบ้านพระอาทิตย์ ไปทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ของ สตง. ที่เป็นข้าราชการน้ำดี อยากให้ออกมาให้ข้อเท็จจริง เช่น ราคากลาง และอื่นๆ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร
นายณรัฐนันทน์ กล่าวอีกว่า ตนยังได้รับทราบเรื่องราวตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ก่อสร้าง ผู้ควบคุมงาน ส่วนกรณีใดที่ส่อไปในทางทุจริตที่ตนได้ไปดำเนินเรื่องเอง ยอมรับว่ามีหลายเรื่องที่ตนได้ไปดำเนินการเอง โดยมันมีหลายเรื่องที่ตนอยู่ในเหตุการณ์เลย รวมทั้งมีคลิปวิดีโอที่มีพฤติการณ์ส่อในทางไม่สุจริต และยังรวมถึงในเรื่องอื่นๆ อีกด้วย
"ทั้งนี้ ผมทำงานที่ สตง. มา 18 ปี แต่เห็นความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยได้ลาออกเมื่อ ก.ย. 2567 ขณะนี้อยู่ระหว่างอุทธรณ์ สาเหตุที่ออกเนื่องจากโดนกลั่นแกล้ง เพราะอาจไปรู้ความลับมากเกินไป และในวันนี้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ มีคนเสียชีวิต คนเหล่านั้นควรได้รับความยุติธรรม ผู้บริหารหรือใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรจะมีส่วนรับผิดชอบ"
เมื่อถามว่าเคยเอาเรื่องการทุจริตไปบอกกล่าวกับผู้บริหาร สตง. มาก่อนหรือไม่นั้น นายณรัฐนันทน์ ระบุว่า สำหรับเรื่องตึกที่ถล่ม ตนเป็นเพียงข้าราชการชั้นผู้น้อย ตนไม่เคยเสนอผู้บริหารได้ทราบ แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าท่านทราบอยู่แล้วว่าท่านทำอะไรกันไว้ มันเกิดอะไรขึ้น เพราะมันอยู่ในอำนาจท่าน ตนเป็นเพียงเป็นข้าราชการคงไม่กล้าไปนำเสนอท่าน แต่ว่าวันนี้ตนไว้ใจ อ ปานเทพและบ้านพระอาทิตย์ ตนเห็นว่ามีผู้เสียชีวิต และอยากให้เรื่องราวถูกตีแผ่ไม่อยากให้ถูกซุกไว้ใต้พรมอีกแล้ว
นายณรัฐนันทน์ ระบุอีกว่า ส่วนผู้บริหาร สตง. ที่รู้เห็นพฤติการณ์ในมุมมองของตนไม่ต่ำกว่า 10 ท่าน โดยสัญญาจ้างผู้ออกแบบ สัญญาจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง สัญญาจ้างผู้ควบคุมงาน อาคาร สตง. จะมีผู้บริหารลงนามอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากังวลเรื่องของความปลอดภัยที่ออกมาพูดในวันนี้ แต่คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ควรพูดและนำเสนอ ถ้าเราไม่ออกมาทำเพื่อสังคมบ้าง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ หากตึกไม่ถล่มก็ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในองค์กร สตง.