เชียงใหม่ - ตำรวจ ปส.-ทหารไล่ล่าขบวนรถขนไอซ์กว่าครึ่งตันหนีจุดตรวจบนถนนสายปากทางพม่า ชายแดนเชียงดาว รวบหนึ่งคนขนอีกหนึ่งคนคุ้มกันพร้อมของกลาง 640 กก. แต่หัวโจกหนีได้
วันนี้ (27 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส.ได้ดำเนินคดีต่อชาย 2 คน และยึดของกลางยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก หลังจากวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ปส.ได้สืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะขนของกลางจำนวนมากจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้านบ้านอรุโณทัย ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไปตามถนนสายปากทางพม่า-บ้านห้วยจะค่าน ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อจะเข้าสู่ชั้นในของประเทศ จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงดาว หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.) 35 วางกำลังสกัดเอาไว้บนถนนสายปากทางพม่า-บ้านห้วยจะค่าน ดังกล่าว
ต่อมาได้ตรวจพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน และมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าจำนวน 1 คันขี่คุ้มกันมาข้างหลังไปตามถนนสายดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่เห็นมีลักษณะต้องสงสัยจึงได้เรียกตรวจสอบทั้ง 2 คัน
แต่ปรากฏว่าช่วงจะเรียกตรวจคนขับรถยนต์กระบะได้เลี้ยวรถลงข้างทางก่อนที่จะเปิดประตูแล้ววิ่งหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจภายในรถพบคนที่นั่งโดยสารไปด้วยเหลือในรถเป็นชาย 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือนายอาซะ อายุ 34 ปี ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ขี่ตามมามีคนขี่มาตามลำพังคนเดียวทราบชื่อต่อมาคือนายสุรนาท อายุ 27 ปี ทั้งคู่เป็นชาว ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจที่ท้ายรถยนต์กระบะพบบรรทุกกระสอบฟางมาเต็มลำจำนวน 32 ใบ ด้านบนมีผ้าใบสีฟ้าปกเอาไว้ เมื่อเปิดดูภายในกระสอบพบบรรจุยาเสพติดประเภทไอซ์ในถุงใบชาน้ำหนักกระสอบละประมาณ 20 กิโลกรัม รวมน้ำหนักของกลางไอซ์ทั้งหมดประมาณ 640 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวนายอาซะและนายสุรนาทเอาไว้ จากการขยายผลทราบว่าผู้ที่หลบหนีไปเป็นหัวหน้าแก๊งชื่อว่านายวัลลพชาว อ.เชียงดาว ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีพฤติกรรมจะขนยาเสพติดออกจากชายแดนมาก่อนหน้านี้แล้ว
เบื้องต้นจึงได้ดำเนินคดีต่อทั้ง 2 คนในข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชนอันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป" จากนั้นนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีและออกติดตามจับกุมนายวัลลพต่อไป