อาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เข้าพบประธานวุฒิสภากัมพูชา ถกการค้าทวิภาคีตั้งเป้า 1 พันล้านดอลลาร์ฯ ชวนตั้งนิคมฮาลาลฯ-ตั้งโรงพยาบาลในกัมพูชา อีกด้านหนุนจัดตั้งชุด AOT เสริมข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ด้านฮุน เซนเล่นบทพระเอก กรณีลำโพงชายแดน ไม่ต้องการให้ตำหนิไทย แต่ให้เคารพข้อตกลงหยุดยิงและแก้ปัญหาอย่างสันติ
วันนี้ (14 ต.ค.) สำนักข่าวแห่งชาติเบอร์นามา (BERNAMA) ของมาเลเซีย รายงานข่าวจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ว่า นายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เดินทางมาเยือนประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 13-15 ต.ค. เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยภัยพิบัติ ครั้งที่ 47
โดยนายอาหมัดได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยได้หารือถึงหัวข้อต่างๆ มากมาย เช่น การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของมาเลเซียต่อกัมพูชาในด้านการศึกษาและการอบรมทางเทคนิคและอาชีวศึกษา แนวทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยว การลงทุน และภาคเกษตรกรรม
ทั้งนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างมาเลเซียและกัมพูชามีมูลค่าเกือบ 3,200 ล้านริงกิต (750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในช่วงเดือน ม.ค. ถึง ส.ค. 2568 เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทั้งสองรัฐบาลคาดหวังว่าจะมีปริมาณการค้าสูงกว่า 4,200 ล้านริงกิต (1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในปี 2569
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า มาเลเซียและกัมพูชาตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันในการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอาเซียน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันว่า การหารือกำลังดำเนินไปเพื่อนำไปสู่การจัดตั้งชุดปฎิบัติการอาเซียน (ASEAN Operations Team หรือ AOT) ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยผู้ช่วยทูตฝ่ายกลาโหมกำลังดำเนินการจัดทำขั้นตอนปฎิบัติงานมาตรฐาน (Standard operating procedures หรือ SOPs) เพื่อจัดตั้งกลไกดังกล่าว
นายอาหมัด กล่าวว่า มาเลเซียจะยังคงประสานงานความพยายามเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างสันติต่อไป บทบาทสำคัญในฐานะประธานอาเซียน คือการอำนวยความสะดวกในการจัดทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย และการมีชุดปฎิบัติการอาเซียน หรือ AOT อยู่ด้วยนั้น จะช่วยให้แน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงจะได้รับการนำไปปฎิบัติตามที่ตกลงกันโดยทั้งสองประเทศที่เป็นคู่ขัดแย้ง
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า กัมพูชากำลังเฝ้ารอการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะมีขึ้น เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเรื่องพรมแดนกับไทยซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่การหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 47 และการประชุมที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค. ที่ประเทศมาเลเซีย
โดยผู้นำทั้งสองประเทศ (มาเลเซียและกัมพูชา) เห็นพ้องว่าความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนตามแนวชายแดน ขัดขวางการบูรณาการและการเชื่อมโยงกันในระดับภูมิภาคอาเซียน ขณะนี้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ซึ่งมีมาเลเซียเป็นแกนนำ กำลังติดตามความคืบหน้าของข้อตกลงหยุดยิงตามแนวชายแดน
ด้าน เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ระบุว่า เช้าวันอังคารที่ 14 ต.ค. นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้อนุญาตให้นายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พัฒนาภูมิภาคและชนบทมาเลเซีย เข้าเยี่ยมคารวะและหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
นายเจีย ทีริดธ์ โฆษกวุฒิสภา เปิดเผยภายหลังการพบปะว่า นายฮุนเซนได้กล่าวต้อนรับรองนายกรัฐมนตรีและคณะอย่างอบอุ่นที่ได้เดินทางมาเยือนประเทศกัมพูชาและเข้าร่วมการประชุมต่างๆ ในประเทศ ถือเป็นสัญญาณสำคัญของการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและมาเลเซียให้แน่นแฟ้นและเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้แสดงความขอบคุณต่อนายฮุนเซนที่ให้โอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ พร้อมกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ซึ่งไม่เพียงในระดับการทูตและการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสองชาติด้วย
รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังได้กล่าวถึงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลในกัมพูชา โดยเสนอให้มีคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตในกัมพูชา พร้อมกันนั้นได้หารือเรื่องการขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และแสดงความตั้งใจที่จะพิจารณาจัดตั้งโรงพยาบาลของมาเลเซียในกัมพูชา
นายฮุนเซนแสดงความเห็นด้วยกับข้อเสนอของรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมเน้นย้ำว่าการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ควรเติบโตควบคู่ไปกับความร่วมมือทางการเมือง อีกทั้งยังกล่าวขอบคุณมาเลเซียที่ได้ช่วยซื้อข้าวจากกัมพูชา โดยเป็นประเทศที่นำเข้าข้าวจากกัมพูชามากที่สุดในปี 2567 ถึง 70,000 ตัน และหวังว่าจะมีการขยายการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ เพิ่มเติม
เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นายฮุนเซนเสนอให้มาเลเซียจัดตั้ง “ศูนย์ข้อมูลบริการสุขภาพ” ในกัมพูชา เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลและคำแนะนำก่อนเดินทางไปรักษาพยาบาลที่มาเลเซีย ในด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล นายฮุนเซน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พูดคุยมานานแล้ว และหวังว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมในเร็วๆ นี้ ผ่านความร่วมมือของทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ นายฮุนเซนยังได้อธิบายถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนกัมพูชา–ไทย โดยกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ฝ่ายไทยเปิดเสียงรบกวนบริเวณหมู่บ้านโจกเจยและหมู่บ้านเปรยจัน (จังหวัดบันเตียเมียนเจย) ทำให้ประชาชนชาวกัมพูชาได้รับผลกระทบ พร้อมย้ำว่ากัมพูชาไม่ต้องการให้ประเทศใดตำหนิอีกฝ่าย แต่ต้องการเพียงให้ทั้งสองฝ่ายเคารพข้อตกลงหยุดยิงและหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติ เพื่อกลับสู่ความสัมพันธ์ปกติ
นายฮุนเซนยังได้กล่าวขอบคุณนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ที่มีบทบาทเชิงรุกในการช่วยประสานและลดความตึงเครียดระหว่างกัมพูชาและไทย ในฐานะที่มาเลเซียเป็นประธานอาเซียน
ท้ายที่สุด นายฮุน เซน ยังได้กล่าวถึงบทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ในการสนับสนุนให้ติมอร์ตะวันออกเข้าร่วมเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้ และได้อวยพรให้คณะผู้แทนมาเลเซียประสบความสำเร็จในการเยือนกัมพูชาครั้งนี้
