xs
xsm
sm
md
lg

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานพระนโยบาย จัดสร้างบังเกอร์ 50 หลุม หลุมหลบภัย 8 แห่งเป็นต้นแบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานพระวโรกาสให้ผู้บัญชาการทหารบกและคณะเฝ้า รับพระราชทานพระนโยบายโครงการให้การสนับสนุนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤตความมั่นคงปลอดภัยบริเวณพื้นที่ชายแดน

วันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 09.50 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ห้องประชุมชั้น 11 อาคารอัครราชกุมารี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พระราชทานพระวโรกาสให้ คุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัช รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายบริหาร และผู้อำนวยการสำนักองค์ประธาน นำ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยคณะผู้แทนกองทัพบก ประกอบด้วย พลเอก อานุภาพ ศิริมณฑล หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา, พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี เลขานุการกองทัพบก เฝ้า กราบทูลรายงานโครงการสนับสนุนกองทุนหทัยทิพย์ กองทัพบก

ทั้งนี้ ทรงจัดตั้งกองทุนหทัยทิพย์ ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 และทรงเป็นประธานกรรมการบริหารกองทุนฯ ด้วยทรงห่วงความปลอดภัยของกำลังพลแนวหน้า และประชาชนที่อยู่บริเวณชายแดน จึงเห็นควรสนับสนุนการสร้างกำแพงและบังเกอร์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการเร่งด่วน กองทัพบกได้สนองพระดำริจัดตั้งคณะทำงานโครงการสนับสนุนกองทุนหทัยทิพย์ กองทัพบก มีพลเอก อานุภาพ ศิริมณฑล หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแนวทางวัตถุประสงค์ของกองทุนหทัยทิพย์อย่างเป็นรูปธรรม


โดยหัวหน้าคณะทำงานได้กราบทูลรายงานรายละเอียดของแผนการดำเนินงาน มุ่งเน้นที่ความจำเป็นเร่งด่วนแรก ได้แก่ การเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้แก่กำลังพลผู้ปฎิบัติหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี และกองกำลังบูรพา จากการสำรวจความต้องการในพื้นที่พบว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดสร้าง และปรับปรุงสิ่งป้องกันภัย ประกอบด้วย การปรับปรุงที่มั่นบังเกอร์ภายในฐานปฎิบัติการของหน่วยงานทหาร รวม 799 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี จำนวน 727 แห่ง และกองกำลังบูรพา จำนวน 72 แห่ง รวมถึงการจัดสร้างหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน เพื่อใช้เป็นสถานที่ปลอดภัยในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน รวม 173 แห่ง โดยกองกำลังสุรนารี จำนวน 167 แห่ง ขนาดความจุ 40-60 คน และกองกำลังบูรพา จำนวน 6 แห่ง ขนาดความจุ 30 คน

ในการนี้ มีพระดำรัสให้กองทัพบกสนับสนุนการจัดสร้างหลุมบุคคลจำนวน 50 หลุม สำหรับใช้เป็นที่มั่นกำบังของกองกำลังพล และสร้างหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน จำนวน 8 แห่ง เพื่อดูแลทั้งทหารและประชาชนอย่างเร่งด่วน สำหรับใช้เป็นต้นแบบในห้วงแรกนี้ก่อน ความว่า "ทางกองทุนหทัยทิพย์ก็จะเป็นคนสนับสนุนเรื่องเงิน ณ ส่วนนี้ และยินดีจะสนับสนุนหลายอย่าง ก็ต้องค่อยๆ ทำไป ขอให้ช่วยดูว่าเราจะสร้างกำแพงที่กั้นระหว่างเขมรกับไทย และจะเป็นที่กั้น ไม่ใช่เดี๋ยวด๋าว เป็นของที่ทำแล้วคงถาวร จริงๆ ถ้าเป็นบังเกอร์แบบนี้เป็นความเร่งด่วน กองทุนหทัยทิพย์นี้ก็อยากที่จะสนับสนุนด้วย เรื่องที่ดีของกองทุนหทัยทิพย์ที่จะทำ เพราะนี่ก็เป็นของเหมือนสิ่งของที่เร่งด่วนจำเป็นสำหรับทหาร (ถ้าท่านทำเขาก็เริ่มได้เลย) เริ่มได้เลยค่ะ อันนี้เป็นการช่วยทหาร หนูอยากได้โครงการที่ช่วยประชาชน"


ทั้งยังมีพระดำรัสถึงการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกองทุนหทัยทิพย์ ความว่า "กองทุนหทัยทิพย์นี่จะขอออกสื่อให้ประชาชนได้ทราบว่า กองทุนของเขากำลังทำงานแล้ว ไม่งั้นตอนนี้เห็นเงียบๆ ไป เขาเห็นเราเงียบ เขาก็เลยนึกว่าหมดแล้ว ไม่มีอะไรทำแล้ว จริงๆ นี่เงียบ รอว่าอยากติดต่อทางทหารเพื่อจะหาข้อมูลเพิ่ม แล้วก็เพื่อจะเอาข้อมูลที่จะทำให้ทหารไปสู่ประชาชนคนไทย เราก็เก็บข้อมูลและเพื่อเอาไปออกสื่อว่าเราได้ทำงานแล้ว เพราะว่าประชาชนเขาก็เห็นคุณประโยชน์ของมูลนิธินี้ แต่ว่าก็อย่างทั่วๆ ไป ถ้าเป็นหนู หนูก็คงเห็นกันว่า บริจาคไปแล้วได้อะไรออกมา รูปแบบยังไงๆ อะไรอย่างนั้น"

ประชาชนสามารถสมทบทุนกองทุนหทัยทิพย์ได้ผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขาหลักสี่พลาซ่า ชื่อบัญชี เงินกองทุนหทัยทิพย์ ประเภทบัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 229-3-03266-6 และประเภทบัญชีสะสมทรัพย์ เลขที่บัญชี 229-4-29977-7 หรือสแกน QR Code ผ่านระบบ e-Donation เงินบริจาคนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานกองทุนหทัยทิพย์ ชั้น 1 อาคารวิจัยเคมี สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ หมายโทรศัพท์ 0-2553-8616 ถึง 19 ในวันและเวลาทำการ