xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์ กดดันไทย–กัมพูชา ยึดหยุดยิงหลังปะทะเดือด วอชิงตันโพสต์ ชี้สันติภาพส่อสั่นคลอน บีบีซี เผยชาวบ้านนับพันอพยพ–โรงเรียนไทยปิด 650 แห่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศทางการทูตระหว่างไทยและกัมพูชายังคงตึงเครียดไม่หยุด แม้จะมีความพยายามผลักดันสันติภาพจากนานาชาติก็ตาม โดยเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยต่อสำนักข่าวอนาโดลูว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนให้ทั้งสองฝ่ายยึดมั่นตามข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าทำเนียบขาวต้องการเห็นการยุติความรุนแรงอย่างเป็นรูปธรรม หลังความตึงเครียดพุ่งสูงต่อเนื่องจากเหตุลอบวางระเบิดกับระเบิดในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ 4 นาย และนำไปสู่การยกเลิกมาตรการลดความตึงเครียดที่เคยตกลงกันไว้ตั้งแต่กลางปี
.
สื่อใหญ่อย่างวอชิงตัน โพสต์ รายงานในทิศทางเดียวกันว่า ข้อตกลงสันติภาพซึ่งทรัมป์ทุ่มน้ำหนักอย่างมากเมื่อเดือนตุลาคม กำลังเผชิญจุดเปราะบางอย่างรุนแรง หลังเกิดการปะทะรอบใหม่เมื่อกองทัพอากาศไทยขึ้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกัมพูชา ภายใต้สถานการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชามีการเคลื่อนกำลังและอาวุธหนักเข้าใกล้พื้นที่พิพาทมากขึ้น พร้อมเตรียมการยิงสนับสนุนในหลายตำแหน่ง รายงานระบุว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย ซึ่งรวมถึงพลเรือน ขณะที่ฝ่ายไทยยืนยันว่าปืนใหญ่จากกัมพูชาตกใส่ฐานปฏิบัติการจนทำให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 7 นาย ส่วนรัฐบาลกัมพูชาตอบโต้ว่าไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนในพื้นที่ จ.พระวิหาร
.
ด้านบีบีซีรายงานว่า ความวุ่นวายที่ลุกลามรวดเร็วนี้ทำให้ประชาชนจำนวนมากทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะฝั่งไทยที่มีโรงเรียนกว่า 650 แห่งประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันไทยได้เปิดปฏิบัติการตอบโต้ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ส่วนฝั่งกัมพูชายืนยันว่าการโจมตีเกิดจากความเคลื่อนไหวของฝ่ายไทยก่อนหน้า ทั้งหมดนี้ทำให้สถานการณ์ถูกประเมินว่าเป็นความขัดแย้งชายแดนที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่การลงนามหยุดยิงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
.
แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้ลดความรุนแรง แต่ความไม่ไว้วางใจระหว่างทั้งสองประเทศยังคงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้การฟื้นฟูเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดนเป็นไปอย่างยากลำบาก และทำให้ข้อเสนอเชิงสันติภาพที่ทรัมป์เคยผลักดันเริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ จากผู้สังเกตการณ์นานาชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น