ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (12 ธ.ค.) ว่า ตนได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำของไทยและกัมพูชา ซึ่งทั้งสองประเทศเห็นพ้องที่จะยุติการสู้รบตามแนวชายแดน และกลับไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงที่เขาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยก่อนหน้านี้
“เช้านี้ผมได้สนทนาอย่างดีกับนายกรัฐมนตรีของไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา นายฮุน มาเนต เกี่ยวกับการปะทุขึ้นอีกครั้งอย่างน่าเสียดายของสงครามที่ยืดเยื้อมานาน พวกเขาตกลงที่จะยุติการยิงทั้งหมดในเย็นวันนี้ และกลับไปสู่ข้อตกลงสันติภาพเดิม” ทรัมป์โพสต์บน Truth Social
“ทั้งสองประเทศพร้อมสำหรับสันติภาพ และการค้าขายกับสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง”
ทรัมป์ ยังกล่าวด้วยว่า "ระเบิดริมถนนที่คร่าชีวิตและทำให้ทหารไทยบาดเจ็บจำนวนมากในตอนแรกนั้นเป็นอุบัติเหตุ แต่ประเทศไทยก็ตอบโต้กลับอย่างรุนแรง"
คำกล่าวของ ทรัมป์ แตกต่างสิ้นเชิงจากการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี อนุทิน ของไทยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า ซึ่งไม่ได้เอ่ยถึงการยุติการสู้รบระหว่าง 2 เพื่อนบ้านซึ่งยังคงดำเนินต่อไปเป็นวันที่ 5 ในวันศุกร์ (12)
อนุทิน กล่าวว่า เขาได้ขอให้ ทรัมป์ เร่งเร้ากัมพูชาเป็นฝ่ายยุติการสู้รบ และถอนทุ่นระเบิด
“ผมอธิบายให้ประธานาธิบดี ทรัมป์ ฟังว่า เราไม่ใช่ผู้รุกรานกัมพูชา แต่เรากำลังตอบโต้” อนุทิน กล่าวกับผู้สื่อข่าว
“เขาต้องการให้มีการหยุดยิง ผมบอกเขาว่าให้บอกกับมิตรประเทศของเรา – อย่าแค่พูดว่าหยุดยิง แต่พวกเขาต้องบอกให้โลกรู้ว่า กัมพูชาจะหยุดยิง ถอนทหาร และถอนทุ่นระเบิดทั้งหมดที่วางไว้ พวกเขาต้องแสดงให้เราเห็นก่อน”
กัมพูชาและไทยได้ยิงจรวดและปืนใหญ่ใส่กันหลายจุดตามแนวชายแดนพิพาทระยะทาง 817 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการสู้รบที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่การปะทะกัน 5 วันในเดือน ก.ค. ที่ยุติลงด้วยการที่ ทรัมป์ เรียกร้องให้ผู้นำทั้งสองฝ่ายยุติความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
การปะทะกันในสัปดาห์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และบาดเจ็บมากกว่า 260 คน ตามรายงานของทั้งสองประเทศ ซึ่งต่างกล่าวโทษกันและกันว่าเป็นต้นเหตุของการปะทะกันอีกครั้ง
ทรัมป์ กระตือรือร้นที่จะเข้าแทรกแซงอีกครั้งเพื่อกอบกู้ข้อตกลงหยุดยิงที่เขาเป็นคนไกล่เกลี่ย ซึ่งถูกขยายวงกว้างออกไปในเดือน ต.ค. เมื่อเขาพบกับนายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาที่มาเลเซีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงกันในกระบวนการถอนทหารและอาวุธหนัก และปล่อยตัวเชลยศึกชาวกัมพูชา 18 คน
ทว่าเมื่อเดือนที่แล้ว ไทยได้ระงับข้อตกลงดังกล่าว และแสดงความไม่พอใจหลังจากทหารไทยได้รับบาดเจ็บสาหัสในชุดเหตุการณ์ล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับทุ่นระเบิด ซึ่งรัฐบาลไทยกล่าวหากัมพูชาว่ามีการวางทุ่นระเบิดใหม่ แต่กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ทรัมป์ ผู้ซึ่งกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตนเองสมควรได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ได้ยกย่องตนเองในวันพฤหัสบดี (11) ว่าเป็นผู้สร้างสันติภาพระดับโลกที่ "แก้ไขสงคราม 8 ครั้ง" และแสดงความมั่นใจว่าเขาจะสามารถนำข้อตกลงหยุดยิง "กลับเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้อง" ได้
ที่มา: รอยเตอร์