“นย.ตราด” ยึดบ้าน 3 หลัง 100% ธงชาติไทยโบกสะบัดอีกจุด ขณะ ทบ. เผยมีพื้นที่เสียหายจากกระสุนตก 105 จุด ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ จัดทำคำชี้แจงเหตุสู้รบถึง 16 ภาษา ให้นานาชาติเข้าใจ
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสำนักงานชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือ ตรี สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การชี้แจงของศูนย์แถลงข่าว ในการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน ได้จัดทำถึง 16 ภาษา ประกอบด้วย ภาษาไทย อังกฤษ จีนรัสเซีย ฝรั่งเศส อารบิก สเปน เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลี ตากาล็อค บาฮาซามาเลย์ บาฮาซาอินโด เวียดนาม เมียนมา และภาษาลาว
สำหรับสถานการณ์ประจำวัน ยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประสาทตาควาย ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียกำลังพลไทย 2 นาย พื้นที่เนิน 350 และพื้นที่อื่นๆ อย่างถูกระดมยิงอย่างต่อเนื่องเพราะกัมพูชาพยายามตอบโต้เข้ายึดพื้นที่ ส่วนฝ่ายไทยสกัดกั้นและสามารถป้องแนวรบอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน พื้นที่บ้าน 3 หลัง จังหวัดตราด หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้ตอบโต้กัมพูชา เพื่อป้องกันตนเอง และเป็นข่าวดีล่าสุดที่ทหารเรือสามารถป้องกันและยึดพื้นที่บ้าน 3 หลัง หรือพื้นที่บ้านหนองรี ได้สำเร็จเรียบร้อย 100% แล้ว สังเกตได้จากธงไทยที่โบกสะบัด
ด้าน พันตรีหญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในส่วนหลังคือประชาชน ซึ่งครอบคลุมทุกจังหวัดชายแดน ทั้งจากจรวด BM 21 เครื่องยิงลูกระเบิด และโดรนโจมตี ที่ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย มีประชาชนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังกระทบโรงพยาบาลพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จึงต้องมีการอพยพผู้ป่วยไปยังบังเกอร์เพื่อความปลอดภัย ส่วนพื้นที่ปศุสัตว์ของประชาชน ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ทั้งนี้ กองทัพบก ร่วมกับ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เข้าไปประเมินภาพความเสียหายที่มีกระสุนตกเข้าไปในเบื้องต้น เริ่มต้นจากพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 อำเภอตาพระยา จำนวน 4 แห่ง , อำเภอโคกสูง จำนวน 9 จุด รวม 13 แห่ง
พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ภาพรวม จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี มีกระสุนตกส่งผลกระทบต่อประชาชนรวม 92 จุด
สรุปยอดรวมทั้ง 2 กองทัพภาคมี 105 จุด บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 27 หลังคาเรือน ประชาชนเสียชีวิต 1 ราย กระทบสถานพยาบาล 1 แห่งศาสนสถาน 4 แห่ง และสถานศึกษา 1 แห่ง
ทั้งนี้ กองทัพบก ขอประณามการกระทำของกัมพูชาที่ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกติกาสากลระหว่างประเทศ โดยจะมีการรวบรวมหลักฐานที่เกิดขึ้นทั้งหมดนำไปให้ส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลในเวทีนานาชาติต่อไป